เป็นที่ทราบกันดีว่ากฎหมายใหม่ของกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่มีนาคม 2566 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงหลายประการที่ส่งผลต่อผู้กู้ยืม ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย การปรับลำดับการชำระหนี้ และการคำนวณหนี้ใหม่ (Recal) ซึ่งคุณควรรู้ว่ามีผลกระทบอย่างไรต่อยอดหนี้ของคุณ
การคำนวณหนี้ใหม่ (Recal) นอกระบบ ณ 30 กันยายน 2567 พบว่ามีจำนวน 3.8 ล้านบัญชี แบ่งเป็น:
ปัจจุบันผู้กู้อาจพบว่ายอดหนี้ที่แสดงใน Mobile Application และ Website ของ กยศ. ไม่ตรงกัน โดย:
ทั้งนี้ หลังคำนวณหนี้โดยระบบเสร็จสมบูรณ์ภายในกรกฎาคม 2568 จะมีการปรับปรุงยอดในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ให้ตรงกัน
หากคุณพบว่ามีการหักเงินเดือนเพิ่ม 3,000 บาท อาจเกิดจาก:
วิธีแก้ไข: ขอปรับโครงสร้างหนี้ออนไลน์หรือชำระยอดค้างชำระให้เสร็จสิ้น ตัวอย่างจริงจากผู้กู้ที่ปรับโครงสร้างหนี้พบว่า ยอดหนี้ลดลงจาก 279,445 บาท เหลือ 84,959 บาท และค่าผ่อนต่อเดือนลดลงจาก 1,620 บาท (บวกเพิ่ม 3,000 บาท) เหลือเพียง 480 บาท
กยศ. ได้รับการจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 2,838.64 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น:
ณ วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 มีผู้แจ้งความประสงค์ขอคืนเงินแล้ว 26,463 บัญชี เป็นเงิน 426.5 ล้านบาท ซึ่งจะได้รับคืนทั้งหมดภายในเดือนพฤษภาคม 2568
กยศ. ได้ออกมาตรการลดหย่อนหนี้เพื่อให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้กู้ยืม โดยใช้ยอด Recal ณ 30 ก.ย. 67 เป็นยอดหนี้ตั้งต้น ผู้กู้จะได้รับส่วนลดต้นเงิน 5-10% และส่วนลดเบี้ยปรับ 100% เมื่อชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียว
ลงทะเบียนขอรับสิทธิได้ที่ www.studentloan.or.th ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม - 31 พฤษภาคม 2568
กฎหมายใหม่ของ กยศ. มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อผู้กู้ยืม ทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยและเงินเพิ่ม การปรับลำดับการชำระหนี้ การคำนวณหนี้ใหม่ และมาตรการลดหย่อนหนี้ ผู้กู้ควรตรวจสอบสถานะและดำเนินการตามสิทธิที่พึงได้ เพื่อลดภาระหนี้และให้สามารถผ่อนชำระได้อย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อ กยศ. โดยตรงผ่านช่องทางที่ระบุในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ