นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ตัดสินใจยกคณะเดินทางไกลกว่า 700 กิโลเมตร มุ่งหน้าสู่ภาคอีสานตอนบน เพื่อนำทัพรัฐมนตรีประชุม "ครม.สัญจร" ครั้งที่ 2 ของปี 2568 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ที่มหาวิทยาลัยนครพนม การเดินทางครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่เท่านั้น
แต่ยังถือเป็นการปักหมุดหมายเชิงการเมืองครั้งสำคัญ ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 ได้แก่ นครพนม สกลนคร และมุกดาหาร ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติโครงการสำคัญ ทั้งโครงการพัฒนาพื้นที่ โครงการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และการจัดสรรงบเร่งด่วน ผ่านงบกลางปี 2568 จำนวนหลายโครงการด้วยกัน
ฐานเศรษฐกิจ รวบรวมข้อมูลมติครม.สัญจร วันที่ 29 เมษายน 2568 มีเรื่องสำคัญที่ผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมครั้งนี้ ประกอบไปด้วย
ไฮไลท์ของการประชุมครม. อยู่ที่การอนุมัติงบประมาณลงไปในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคอีสานเหนือ รวมทั้งสิ้น 9 โครงการ ผ่านการจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบฯ 2568 งบกลาง สำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ซึ่งทุกโครงการนั้น ได้ผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมบูรณาการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ในพื้นที่ 3 จังหวัดแล้ว ประกอบด้วย
1.โครงการพัฒนาพื้นที่และปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณริมแม่น้ำโขงเหนือเมืองนครพนมและพื้นที่ต่อเนื่อง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ระยะที่ 1 วงเงิน 50 ล้านบาท
2.โครงการสกลจังซั่นเมืองเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วงเงิน 50 ล้านบาท
3.โครงการยกระดับการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสู่การเชื่อมโยงระดับนานาชาติ ของกระทรวงมหาดไทย วงเงิน 50 ล้านบาท
4.โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอุทยานธรณีวิทยาและไดโนเสาร์ “Geo Park Center at Tha Uthen” ของกระทรวงมหาดไทย วงเงิน 50 ล้านบาท
5.โครงการพัฒนาและยกระดับกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 สู่การเป็นเมืองมหานครแห่งพฤกษเวชเพื่อรองรับการท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำโขงเชิงสุขภาพ ของกระทรวงการอุดมศึกษาฯ วงเงิน 50 ล้านบาท
6.โครงการงานปรับปรุงผิวแอสฟัลต์ ติดตั้งและปรับปรุงไฟฟ้าแสงสว่างบนทางหลวง หมายเลข 2339 (ตอนศรีวิชา – กวนบุ่น ระหว่าง กม. 8+000 - กม. 35+500 เป็นช่วง ๆ) และทางหลวงหมายเลข 2347 (ตอนธาตุนาเวง - สกลนคร ระหว่าง กม. 2+300 - กม. 5+200) ของกระทรวงคมนาคม วงเงิน 50 ล้านบาท
7.โครงการสร้างอัตลักษณ์เมือง (DNA) และ Marketing ภายใต้ 5 Must (Visit, Eat, Shop, Mu, Rest) ของกระทรวงมหาดไทย วงเงิน 20 ล้านบาท
8.โครงการยกระดับเทศกาลเรือไฟไทยสู่เรือไฟโลก ของกระทรวงวัฒนธรรม วงเงิน 30 ล้านบาท
9.โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดและประชาสัมพันธ์กลุ่มจังหวัดสนุก (เที่ยวสนุกสุขสบาย) พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณปากห้วยมุกและพื้นที่ต่อเนื่อง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ของกระทรวงมหาดไทย วงเงิน 50 ล้านบาท
นอกจากนี้ที่ประชุมครม.ยังมอบหมายให้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาโครงการที่เป็นข้อเสนอของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดฯ ของภาคเอกชน (กรอ.กลุ่มจังหวัด) ในส่วนที่เหลือ 21 โครงการ กรอบวงเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท เพื่อบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติราชการประจำปีของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ครม.สัญจร ยังอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น อีกก้อนหนึ่ง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน (แม่น้ำปิง และแม่น้ำกก) ระยะเร่งด่วน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย วงเงินรวมทั้งสิ้น 355,334,100 บาท ให้กองบัญชาการกองทัพไทย ต่อไป ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
ทั้งนี้เมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้วขอให้กระทรวงกลาโหมจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอทำความตกลงกับ สำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ครม.สัญจร ยังได้อนุมัติงประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในกรอบวงเงิน 172.50 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการรถรักษาอัมพาตเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติ ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการรักษาโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน (โครงการรถรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ฯ)
ครอบคลุมในพื้นที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช จำนวน 5 แห่ง ในลักษณะโครงการนำร่องของมหาวิทยาลัยมหิดล ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
กระทรวงพาณิชย์ ยังเสนอครม.สัญจร อนุมัติในหลักการให้ประเทศไทยเข้าร่วมงาน International Horticultural Expo 2027 หรืองานมหกรรมพืชสวนนานาชาติ 2027 ระหว่างวันที่ 19 มีนาคม - 26 กันยายน 2570 ณ เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เป็นหน่วยงานเจ้าภาพหลักรับผิดชอบการเข้าร่วมงานดังกล่าว
ทั้งนี้ ครม. ได้เห็นชอบแผนการดำเนินงานเข้าร่วมการจัดงาน International Horticultural Expo 2027 รวมทั้งกรอบวงเงินงบประมาณ จำนวนเงินทั้งสิ้น 497.49 ล้านบาท ระยะเวลาปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 - พ.ศ. 2571
สำหรับจัดงานมหกรรมพืชสวนนานาชาติ 2027 (International Horticultural Expo 2027) ซึ่งเป็นงานระดับ A1ระหว่างวันที่ 19 มีนาคม - 26 กันยายน 2570 ณ เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น
ครม.สัญจร ยังเห็นชอบให้มีการออกสลากการกุศล เพื่อสนับสนุนโครงการที่ผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศลฯ (คณะกรรมการฯ) จำนวน 7 โครงการ วงเงิน 5,308.14 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.โครงการพัฒนาศักยภาพ ODOS เพื่อขยายโอกาสและพัฒนาประเทศ โดยจะส่งเยาวชนตัวแทนจาก 878 อำเภอ ทั่วประเทศ และจากกรุงเทพมหานคร 50 เขต จำนวนไม่น้อยกว่า 928 คน ไปศึกษาและฝึกอบรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีระยะสั้นในต่างประเทศ เพื่อยกระดับทักษะดิจิทัลใหม่
2.โครงการสรรหาและเตรียมความพร้อมนักเรียนทุนการศึกษาเพื่อขยายโอกาสและพัฒนาประเทศ ODOS สำหรับทุนการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) จำนวน 60 ทุน และระดับปริญญาตรีในต่างประเทศ และปริญญาตรีในต่างประเทศ จำนวน 140 ทุน รวม 200 ทุน
3.โครงการทุนการศึกษาเพื่อขยายโอกาสและพัฒนาประเทศ ODOS สำหรับทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีในต่างประเทศ ณ สหรัฐอเมริกา โดยขอรับการสนับสนุนทุนการศึกษา จำนวน 60 ทุน ในหลักสูตรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STEM) โดยแบ่งเป็น 2 รุ่น รุ่นละ 30 ทุน
4.โครงการทุนการศึกษาเพื่อขยายโอกาสและพัฒนาประเทศ ODOS สำหรับทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีในต่างประเทศ ณ สหราชอาณาจักร โดยขอรับการสนับสนุนทุนทุนการศึกษา จำนวน 50 ทุน ในหลักสูตรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STEM) โดยแบ่งเป็น 2 รุ่น รุ่นละ 25 ทุน
5.โครงการทุนการศึกษาเพื่อขยายโอกาสและพัฒนาประเทศ ODOS สำหรับทุนการศึกษาระดับ ปวส. และระดับปริญญาตรีในต่างประเทศ ณ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยขอรับการสนับสนุนทุนการศึกษาระดับ ปวส. จำนวน 60 ทุน และระดับปริญญาตรี จำนวน 30 ทุน (รวม 90 ทุน) ในหลักสูตรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STEM) โดยแบ่งเป็น 2 รุ่น รุ่นละ 45 ทุน
6.โครงการทุนการศึกษาเพื่อขยายโอกาสและพัฒนาประเทศ ODOS สำหรับทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีในประเทศ โดยขอรับการสนับสนุนทุนการศึกษาจำนวน 2,200 คนในหลักสูตรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STEM) โดยแบ่งเป็น 2 รุ่น รุ่นละ 1,100 คน (ผู้รับทุนรัฐบาลจากโครงการสลากฯ จำนวน 700 คน และผู้รับทุนรัฐบาลจากโครงการสลากฯ และบางส่วนจากทุนสถาบันอุดมศึกษาเป็นค่าเล่าเรียนตามระเบียบของสถาบันการศึกษา จำนวน 400 คน)
7.โครงการทุนการศึกษาเพื่อขยายโอกาสและพัฒนาประเทศ ODOS สำหรับทุนการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และ ปวส. ในประเทศ โดยขอรับการสนับสนุนทุนการศึกษา จำนวน 4,800 คน ในหลักสูตรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STEM) โดยแบ่งเป็น 4 รุ่น รุ่นละ 1,200 คน