นายกฯ บี้สรุปผลสอบตึกสตง.ถล่ม สั่งปรับเกณฑ์จ่ายเงินเยียวยาใหม่

22 เม.ย. 2568 | 04:38 น.
อัปเดตล่าสุด :22 เม.ย. 2568 | 04:46 น.

นายกฯ แพทองธาร สั่งกลางครม. เร่งสรุปผลสอบตึกสตง.ถล่ม หลังจากล่าช้า พร้อมสั่งกรมบัญชีกลางปรับการจ่ายเยียวยาให้สอดคล้องกับความเสียหาย มอบดีเอสไอ จัดการเด็ดขาด

วันนี้ 22 เมษายน 2568  ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีตึก สตง. ถล่มจากการที่ นายกรัฐมนตรี ได้มีการสั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนถึงสาเหตุ และข้อเท็จจริงของตึก สตง. ถล่ม เพื่อให้ดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำความผิดนั้น

ทั้งนี้พบว่า การสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังไม่ได้รับความร่วมมือจากหลายๆหน่วยงานเท่าที่ควร นายกฯ จึงมีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีดังนี้

1.ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการส่งเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถสืบสวนถึงสาเหตุได้โดยเร็ว

2.ขอความร่วมมือกับ สตง. ในการส่งเอกสารทั้งหมด รวมถึงการรายงานผลจากคณะกรรมการตรวจสอบที่พบว่ามีผู้รับจ้างมีการผิดสัญญา แต่ไม่มีการยกเลิกสัญญาในเวลาที่กำหนดตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา

3.ให้กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมทรัพยากรธรณี ส่งรายงานผลกระทบจากแผ่นดินไหวในบริเวณ กทม. ให้กับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยด่วน

4.ให้กรมบัญชีกลาง ซึ่งดูแลในเรื่องมาตรฐานในการจัดซื้อจัดจ้างและคุณภาพของวัสดุก่อสร้าง ร่วมมือในการตรวจสอบ โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับการดำเนินการตามกฎหมายจัดซื้อจัดจ้าง และอำนาจในการบอกเลิกสัญญากับบริษัทที่ทำผิดระเบียบ

5.ขอให้กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ร่วมตรวจรับการออกแบบการก่อสร้าง รวมทั้งตรวจรับงานในอาคาร สตง. ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการตรวจรับตึก สตง. ซึ่งที่ผ่านมาควรจะแยกออกจากกระบวนการสืบสวน

6.ขอให้ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ  DSI ในการดำเนินการคดีเรื่องมาตรฐานของเหล็กและคุณภาพของปูนที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย และการฮั้วประมูลกับผู้ที่กระทำผิดอย่างเด็ดขาด

ส่วนของการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความเสียหายนั้น นายกฯ มีข้อสั่งการว่า การเยียวยาค่าเสียหายตามหลักเกณฑ์ของกรมบัญชีกลาง ยังไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง จึงขอสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมบัญชีกลาง  กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมโยธาธิการฯ และ กรุงเทพมหานครให้เร่งหาแนวทาง ที่เป็นไปได้ในการปรับแก้ไขระเบียบหรือหลักเกณฑ์ให้มีความยืดหยุ่นและสามารถจ่ายเงินเยียวยาให้สอดคล้องกับสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ จะต้องไม่ซ้ำซ้อน กับเงินประกันภัยที่ทางอาคารได้รับจากบริษัทประกันภัย เพื่อซ่อมแซมอาคารที่ได้รับความเสียหายอยู่แล้ว.