ด่วน มติบีโอไอ สั่งเพิกถอนสิทธิประโยชน์ "ซิน เคอ หยวน" ชั่วคราว

11 เม.ย. 2568 | 07:01 น.
อัปเดตล่าสุด :11 เม.ย. 2568 | 07:03 น.

ด่วน มติบอร์ดบีโอไอ สั่งเพิกถอนสิทธิประโยชน์ของ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ชั่วคราว เซ่นปมตึกสตง. ถล่ม โดยให้มีผลไปจนกว่ากระทรวงอุตสาหกรรมจะมีหนังสือแจ้งมาอีกครั้ง

วันนี้ (11 เมษายน 2568) นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลังเป็นประธาน วันนี้ ได้มีมติให้เพิกถอนการใช้สิทธิประโยชน์ของ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด เป็นการชั่วคราว 

โดยไม่กระทบกับสิทธิประโยชน์ที่ได้ใช้ไปแล้ว ของบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ซึ่งได้รับการส่งเสริมในกิจการผลิตเหล็กแท่ง (Billet) ตามบัตรส่งเสริมเลขที่ 1235(2)/2556 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556 โดยให้มีผลนับแต่วันที่คณะกรรมการมีมติ จนกว่ากระทรวงอุตสาหกรรมจะมีหนังสือแจ้งมายังสำนักงานว่าอนุญาตให้บริษัทกลับมาดำเนินการผลิตได้

 

การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) 11 เม.ย.2568

 

ทั้งนี้หากกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ดำเนินการเพิกถอนหนังสือรับรองการประกอบกิจการโรงงานแล้ว สำนักงานจะนำเสนอคณะกรรมการเพื่อดำเนินการต่อไป เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ในระหว่างที่กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานอื่น ๆ ยังตรวจสอบรายละเอียดและดำเนินการตามกฎหมายไม่แล้วเสร็จ 

สำหรับการดำเนินการดังกล่าว ถือว่าเป็นไปตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งได้มีหนังสือถึงบีโอไอ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 แจ้งว่า บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายตาม พ.ร.บ. โรงงานอุตสาหกรรมฯ และ พ.ร.บ. มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมฯ 

 

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)

 

นายนฤตม์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาบีโอไอไม่ได้นิ่งนอนใจกับกรณีดังกล่าว โดยได้เข้าตรวจสอบโรงงานของบริษัท ซิน เคอ หยวน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริง และได้มีหนังสือแจ้งเตือนให้บริษัทต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในบัตรส่งเสริม รวมทั้งต้องปฏิบัติตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด 

จากนั้นได้เร่งนัดประชุมร่วมกันระหว่างบีโอไอและกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีรองนายกฯ พิชัย ชุณหวชิร เป็นประธาน เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 เพื่อพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบ ก่อนจัดประชุมบอร์ดบีโอไอในวันนี้เพื่อดำเนินการในทันที เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างที่กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานต่าง ๆ กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง 

สำหรับประเด็นการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเหล็ก บีโอไอได้ยกเลิกการส่งเสริมเหล็กเส้นสำหรับงานก่อสร้าง เช่น เหล็กเส้น และเหล็กข้ออ้อย มาตั้งแต่ปี 2543 ส่วนผลิตภัณฑ์เหล็กอื่น ๆ บีโอไอได้เฝ้าระวังและได้หารือกับกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อรับมือกับภาวะผลิตภัณฑ์เหล็กล้นตลาด และปัญหาการทุ่มตลาดในอุตสาหกรรมเหล็กแผ่นรีดร้อนและเหล็กก่อสร้าง 

โดยในปีที่ผ่านมา บอร์ดบีโอไอได้ออกประกาศยกเลิกการส่งเสริมการผลิตเหล็กหลายประเภท เช่น เหล็กแท่ง เหล็กลวด เหล็กแผ่นรีดร้อน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะการแข่งขันอย่างรุนแรง 

อีกทั้งได้ลดสิทธิประโยชน์เหลือเฉพาะสิทธิที่มิใช่ภาษี (Non-Tax) สำหรับกิจการผลิตเหล็กทรงแบน (เหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กแผ่นไร้สนิมรีดร้อนหรือรีดเย็น เหล็กแผ่นหนา เหล็กแผ่นเคลือบ) และกิจการผลิตเหล็กทรงยาว (เหล็กรูปพรรณ เหล็กเพลา ลวดเหล็ก) เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กไทย และเพิ่มโอกาสในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการในประเทศ 

ทั้งนี้ บีโอไอจะส่งเสริมกิจการที่มีความสำคัญต่อการสร้างซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย กิจการที่สำคัญต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเกิดประโยชน์ต่อประเทศในด้านต่าง ๆ เช่น การจ้างงาน การพัฒนาบุคลากรไทย การถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ การวิจัยและพัฒนา การเพิ่มมูลค่าจากวัตถุดิบในประเทศ การส่งออกเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของซัพพลายเชน รวมทั้งการพัฒนาผู้ประกอบการในประเทศ