“สำนักงานควบคุมธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร” หนึ่งใน 3 แท่งโครงสร้างอำนาจการบริหาร Entertainment Complex ตามนโยบายรัฐบาล
ที่ปรากฎอยู่ใน "ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ..." ที่เปิดรับฟังความคิดเห็น ระหว่างวันที่ 28 ก.พ. 68 ถึงวันที่ 14 มี.ค. 68 หลังจากคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว เรื่องเสร็จที่ 261/2568
สำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ "สำนักงาน Entertainment Complex" กำหนดให้จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ชัดเจนในการเป็นหน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่ควบคุม กำกับดูแล ติดตาม ตรวจสอบ ส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
การทำงานของสำนักงานจะเป็นไปในลักษณะของหน่วยงานธุรการของคณะกรรมการนโยบายและคณะกรรมการบริหาร ที่คอยขับเคลื่อนนโยบายและการบริหารจัดการให้เป็นรูปธรรม
ตามมาตรา 24 และ 25 ของพระราชบัญญัติ สำนักงานมีหน้าที่และอำนาจที่ครอบคลุมหลายด้าน ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทอันกว้างขวางในการกำกับดูแลธุรกิจสถานบันเทิง ไม่ว่าจะเป็น
การศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบ
การเสนอแนวทางป้องกันและแก้ไข
การวิจัยและพัฒนา
การวางแผนยุทธศาสตร์
การรับเรื่องร้องเรียน
นอกจากนี้ ตามมาตรา 25 สำนักงานยังมีอำนาจในการถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน การก่อตั้งสิทธิหรือทำนิติกรรมต่างๆ การกู้ยืมเงิน และการเรียกเก็บค่าบริการหรือค่าตอบแทนในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ได้อีกด้วย
การบริหารงานของสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรมีโครงสร้างที่ชัดเจน โดยมี “ผู้อำนวยการ” เป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กร ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการนโยบาย
ผู้อำนวยการมีหน้าที่บริหารกิจการของสำนักงานภายใต้การควบคุมดูแลของคณะกรรมการบริหาร และอาจมีรองผู้อำนวยการตามจำนวนที่คณะกรรมการบริหารกำหนดเพื่อช่วยในการปฏิบัติงาน
ได้รับการกำหนดไว้อย่างเข้มงวดในมาตรา 29 โดยต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 65 ปีในวันที่ได้รับการแต่งตั้ง สามารถปฏิบัติงานได้เต็มเวลา และมีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ยังมีข้อห้ามไม่ให้ผู้อำนวยการมีตำแหน่งในหน่วยงานราชการอื่น เป็นผู้มีส่วนได้เสียในธุรกิจสถานบันเทิง หรือเคยมีประวัติทุจริตหรือกระทำความผิดในฐานความผิดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ผู้อำนวยการมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี และอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่ไม่เกิน 2 วาระไม่ว่าจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการจะดำเนินการโดยคณะกรรมการบริหารเป็นประจำทุกปี
ตามมาตรา 35 ผู้อำนวยการมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารงานของสำนักงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามภารกิจ และเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้างของสำนักงาน
โดยมีหน้าที่และอำนาจที่สำคัญ ได้แก่
นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดข้อจำกัดสำหรับผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการที่พ้นจากตำแหน่ง โดยในมาตรา 38 ระบุว่า ภายในระยะเวลา 2 ปีนับแต่วันพ้นจากตำแหน่ง ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการจะประกอบธุรกิจหรือทำงานให้แก่ผู้รับใบอนุญาตหรือผู้ประกอบธุรกิจในสถานบันเทิงครบวงจรไม่ได้ ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
การดำเนินงานด้านการเงินของสำนักงานมีการกำหนดแหล่งที่มาของเงินทุนและทรัพย์สินไว้อย่างชัดเจนในมาตรา 26 ซึ่งประกอบด้วย
อย่างไรก็ตาม มีข้อห้ามไม่ให้สำนักงานรับเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีแหล่งที่มาที่น่าสงสัย และบรรดารายได้ของสำนักงานต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
ในด้านการตรวจสอบ สำนักงานต้องจัดให้มีการตรวจสอบภายในเป็นประจำตามมาตรา 40 และต้องจัดทำรายงานการเงินประจำปีงบประมาณตามมาตรา 41 เพื่อส่งให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภายใน 90 วันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ
นอกจากนี้ ยังต้องจัดทำรายงานประจำปีเสนอต่อคณะกรรมการบริหาร คณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพื่อแสดงถึงผลการดำเนินงานและความโปร่งใสในการบริหารจัดการ