เจาะลึก "ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ..." หลังจาก "คณะกรรมการกฤษฎีกา" ตรวจพิจารณาแล้ว เรื่องเสร็จที่ 261/2568 และเปิดรับฟังความคิดเห็น ระหว่างวันที่ 28 ก.พ. 68 ถึงวันที่ 14 มี.ค. 68
ซึ่งจะเป็นกฎหมายหลักในการควบคุมและกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจ Entertainment Complex หรือ สถานบันเทิงครบวงจร อย่างเป็นระบบภายใต้การกำหนดโครงสร้างการบริหารและควบคุมธุรกิจ ที่แบ่งออกเป็น 3 ส่วน อย่างเข้มงวด คือ 1.คณะกรรมการนโยบาย 2.คณะกรรมการบริหาร และ 3.สำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจ
ร่างพระราชบัญญัติได้กำหนดให้มีการจัดตั้ง "คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร" ซึ่งมีโครงสร้างที่ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงของประเทศ ดังนี้
1.นายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งเป็น ประธานกรรมการ
2. รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย ดำรงตำแหน่งเป็น รองประธานกรรมการ
3. กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวน 10 คน ได้แก่
4. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่เกิน 6 คน ซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ เช่น
การที่คณะกรรมการนโยบายประกอบด้วยบุคคลระดับสูงจากหลายกระทรวงและหน่วยงานสำคัญ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการกำกับดูแลอุตสาหกรรมนี้อย่างรอบด้าน ทั้งมิติเศรษฐกิจ กฎหมาย ความมั่นคง และสังคม
คุณสมบัติและวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ร่างกฎหมายได้กำหนดคุณสมบัติของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไว้อย่างชัดเจน โดยต้องมีสัญชาติไทยและอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปีในวันที่ได้รับแต่งตั้ง และต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามหลายประการ เช่น
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี และอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งเกิน 2 วาระไม่ได้ไม่ว่าวาระการดำรงตำแหน่งจะติดต่อกันหรือไม่
อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบาย
คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรมีหน้าที่และอำนาจที่สำคัญหลายประการ ได้แก่
1. การกำหนดนโยบายและพื้นที่
2. การกำกับดูแลภาษีและใบอนุญาต
3.การกำหนดกฎเกณฑ์และมาตรการควบคุม
4. การแต่งตั้งบุคลากรและกำกับดูแลสำนักงาน
นอกจากคณะกรรมการนโยบายแล้ว ร่างพระราชบัญญัติยังกำหนดให้มี "คณะกรรมการบริหารสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร" และให้จัดตั้ง "สำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร" เพื่อทำหน้าที่เป็นหน่วยงานปฏิบัติการหลัก
องค์ประกอบของคณะกรรมการบริหาร ประกอบด้วย
1. ประธานกรรมการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง
2. กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวน 12 คน ได้แก่
3. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่เกิน 5 คน ซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ
หน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการบริหาร
คณะกรรมการบริหารมีหน้าที่และอำนาจในการควบคุมการดำเนินงานของสำนักงานให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติของคณะกรรมการนโยบาย รวมถึง
สำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
ร่างพระราชบัญญัติได้กำหนดให้จัดตั้ง "สำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร" เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ โดยมีวัตถุประสงค์ในการควบคุม กำกับดูแล ติดตาม ตรวจสอบ ส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
สำนักงานมีหน้าที่และอำนาจหลายประการ ที่สำคัญได้แก่
โครงสร้างการบริหารของสำนักงาน
สำนักงานมีผู้อำนวยการคนหนึ่งซึ่งคณะกรรมการนโยบายแต่งตั้ง เป็นผู้บริหารกิจการภายใต้การควบคุมดูแลของคณะกรรมการบริหาร โดยอาจมีรองผู้อำนวยการตามจำนวนที่คณะกรรมการบริหารกำหนด
ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
ผู้อำนวยการมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี และอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งเกิน 2 วาระไม่ได้ไม่ว่าวาระการดำรงตำแหน่งจะติดต่อกันหรือไม่
และมีข้อห้ามสำคัญคือ ภายใน 2 ปีนับแต่วันพ้นจากตำแหน่ง ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการจะประกอบธุรกิจหรือทำงานให้แก่ผู้รับใบอนุญาตหรือผู้ประกอบธุรกิจในสถานบันเทิงครบวงจรไม่ได้
ทรัพย์สินและการเงินของสำนักงาน
ทุนและทรัพย์สินในการดำเนินงานของสำนักงานประกอบด้วย:
ทั้งนี้ มีข้อห้ามสำคัญคือ ห้ามมิให้สำนักงานรับเงินหรือทรัพย์สินโดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และบรรดารายได้ของสำนักงานต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ที่ขณะนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนของการรับฟังความคิดเห็น และจากนั้นจะกลับเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีอีกครั้งก่อนเสนอต่อรัฐสภาเพื่อตราเป็นกฎหมาย ที่ต้องเกาะติดว่าหน้าตาของโครงสร้างบริหารและรายละเอียดอื่นๆจะปรับแก้เป็นเช่นใด
ที่มา : ร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ....