ชัดเจนแล้ว “เก็บค่าเหยียบแผ่นดิน” นักท่องเที่ยวเข้าไทย เช็คไทม์ไลน์

ความคืบหน้าการจัดเก็บ “ค่าเหยียบแผ่นดิน” ซึ่งเป็นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ล่าสุด มีความชัดเจนแล้ว ภายหลังนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า มาตรการนี้จะเริ่มต้นให้ได้ภายในปี 2568 แน่นอน

สำหรับการเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน หรือการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากจะช่วยแบ่งเบาภาระงบประมาณของรัฐจากเดิมที่ต้องมีการให้ความช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยว กรณีที่ประสบเหตุด้านความปลอดภัย และวงเงินที่จัดเก็บยังเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดให้มีการประกันภัยนักท่องเที่ยว 

อีกทั้งยังสามารถนำไปค่าเหยียบแผ่นดิน ไปเป็นค่าใช้จ่ายบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศได้ด้วย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวในหลาย ๆ ประเทศก็มีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมในลักษณะนี้เช่นกัน

ความชัดเจนการจัดเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน 

การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าประเทศไทย หรือ “ค่าเหยียบแผ่นดิน” รมว.การท่องเที่ยวฯ ยอมรับว่าจะเริ่มจัดเก็บจากนักท่องเที่ยวต่างชาติภายในปี 2568 อย่างแน่นอน

เบื้องต้นอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดของประกาศ คาดว่าหากดำเนินการแล้วเสร็จ และสามารถออกประกาศได้ภายในเดือนมีนาคม 2568 นี้ จะใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือน จะเริ่มต้นการจัดเก็บได้ทันในช่วงปลายปี ซึ่งตรงกับช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซัน) 

อัตราการจัดเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน

สำหรับอัตราค่าธรรมเนียมท่องเที่ยวฯ หรือ ค่าเหยียบแผ่นดิน ครั้งนี้ ประเทศไทยจะยังคงรูปแบบเดิมตามมติคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ทั้งการเดินทางผ่านช่องทางอากาศ และเดินทางผ่านช่องทางบกและช่องทางน้ำ โดยมีอัตราดังนี้

• เดินทางผ่านช่องทางอากาศ ต้องชำระค่าธรรมเนียมในอัตราคนละ 300 บาทต่อคนต่อครั้ง
• เดินทางผ่านช่องทางบกและช่องทางน้ำ ต้องชำระค่าธรรมเนียมในอัตราคนละ 300 บาทต่อคน

รมว.การท่องเที่ยวฯ ระบุเหตุผลว่า การเดินทางทางอากาศยังจัดเก็บอยู่ที่ 300 บาทต่อคนต่อครั้งเหมือนเดิม แต่อัตราค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวฯ ที่เดินทางทางบกและทางน้ำ ถ้ามีการจัดเก็บต่อครั้งจะเป็นอัตราที่สูงเกินไป โดยอาจจะเปลี่ยนแปลงมาจัดเก็บในอัตรา 300 บาทต่อคน (จากเดิม 150 บาทต่อคนต่อครั้ง) 

แต่สามารถเดินทางเข้าไทยได้หลายครั้ง (Multiple Entry) ต่อระยะ 30-60 วัน อย่างไรก็ดีในแนวทางดังกล่าวยังต้องรอสรุปอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพื่อให้ครอบคลุมไปถึงการประกันภัยด้วย