ธปท.ถอดโมเดลสิงคโปร์ สะกัดอาชญากรรมไซเบอร์

14 ก.พ. 2568 | 03:01 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ก.พ. 2568 | 03:01 น.

เปิดมูลค่าความเสียหายคดีออนไลน์พุ่ง 981 เรื่องต่อวัน หลังธปท.สนธิกำลังดีอี-ตำรวจไซเบอร์ -แบงก์-ปปง.ยกระดับปราบบัญชีม้า-จับตา LINE- Facebook-Tiktok ผู้ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ร่วมด้วยช่วยกัน

คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติอนุมัติในหลักการร่างพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….หรือ พ.ร.ก.ไซเบอร์ ตามข้อเสนอของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี)

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือ(Telco) แพลต์ฟอร์ม P2P/ ผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องสื่อออนไลน์มีส่วนร่วมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการถูกหลอกลวงผ่านออนไลน์ 

รวมถึงเพิ่มอำนาจให้ “คณะกรรมการธุรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เป็นผู้พิจารณาคืนเงินให้แก่ผู้เสียหาย โดยไม่ต้องรอให้มีการยื่นฟ้องคดีต่อศาลเพื่อพิจารณามีคำสั่งถึงที่สุดก่อน เพื่อลดขั้นตอนทำให้กระบวนการคืนเงินเร็วขึ้นนั้น

ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวในงาน "Media Briefing เรื่อง ธปท. ยกระดับมาตรการจัดการบัญชีม้าและผลักดันแนวทางการร่วมรับผิดชอบ" เมื่อวันที่ 30ม.ค.68ว่า ธปท.เห็นด้วยกับหลักการ  Shared responsibility ของไทย

ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)

เพราะต้องการเห็นแต่ละฝ่าย ทั้งผู้เสียหาย ธนาคารพาณิชย์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม(Telco) รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ มีขอบเขตความรับผิดชอบในหน้าที่ของตนเอง และหากทำไม่ได้ก็ควรที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบ โดยใช้มาตรฐานที่ผู้กำกับดูแลขีดไว้อย่างชัดเจน 

โดยใช้มาตรฐานที่ผู้กำกับดูแลขีดไว้อย่างชัดเจน พร้อมยกตัวอย่างแนวทางร่วมรับผิดชอบในสิงคโปร์ ซึ่ง ทุกภาคส่วนต้องร่วมรับผิดชอบ กรณีไม่ได้ทำเอง แต่โดนฟิชชิ่ง หรือเฉพาะ Unauthorized  Payment Fraud โดยกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบ 3ภาคส่วนคือ สถาบันการเงิน , Telco และลูกค้า 

วิธีรับผิดชอบจะเป็นลำดับชั้น เริ่มจากสถาบันการเงิน คือ สถาบันการเงินต้องรับความเสียหาย ถ้าไม่ทำหน้าที่ที่กำหนด4 อย่างคือ ส่งข้อความ-แจ้งว่ามีเงินออก,ถ้ามีการเปลี่ยนโทรศัพท์หรือเปลี่ยน PIN (ดิจิทัลโทเคน) จะใช้งานไม่ได้ 12ชม.ในธุรกรรมเสี่ยงสูง, ถ้ามีจำนวนเงินออกมากและมีเงินออกอย่างรวดเร็ว ธนาคารต้องมีหน้าที่บล๊อคธุรกรรมเพื่อมิให้โอนเงินออกและแจ้งเตือนลูกค้าภายใน 24ชม.      

การยะระดับจัดการบัญชีม้า

ถัดไป Telco ต้องรับผิดชอบความเสียหาย  หากไม่ทำหน้าที่ที่กำหนด 3 อย่างคือ ไม่บล็อค SMS ไม่บล็อคทั้ง 2กรณีคือ Block SMS จาก unauthorized  Aggregators และกรณี Block SMS ที่มีmalicious URLs และไม่แจ้งลูกค้า 

ส่วนลูกค้ามีหน้าที่ระมัดระวังขั้นพื้นฐาน,ใช้ข้อมูลทางการ ไม่กดลิ้งค์ที่มากับ SMS /e-mail ทั้งนี้ลูกค้าต้องรับความเสียหายถ้าหากธนาคารและ Telcoทำตามหน้าที่ที่กำหนดแล้ว

“หลักการของไทยที่อยากเห็น ทุกภาคส่วนต้องมีหน้าที่ทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการทั้งธนาคาร Telco และผู้กำกับดูแลทุกภาคส่วนต้องขีดเส้น"

อย่างสิงคโปร์กำหนดหน้าที่ให้แบงก์ทำ 4 เรื่องนั้น เราเห็นว่า ดีและจะเป็นหนึ่งในแผนงานที่อยากจะทำคือ ถ้ามีจำนวนเงินออกมาก แบงก์มีหน้าที่ต้องบล็อกทรานเซ็กชั่นนั้นไม่ให้โอนออกและต้องแจ้งเตือนลูกค้าภายใน 24ชม.ซึ่งสิงคโปร์กำหนดวงเงิน 50,000 ดอลลาร์สิงคโปร์เท่ากับ 1.2ล้านบาท

ส่วนไทยจะทำ ก็ต้องดึงวงเงินต่ำกว่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเยอะเกิน และโมบายแบงก์กิ้งระยะที่สองที่เราจะพิจารณาดูความเหมาะสมกับเมืองไทยในเรื่อง Self report” 

ทั้งนี้ สถิติความเสียหายสะสมตั้งแต่วันที่ 1ม.ค.-10 ก.พ.2568 ประกอบด้วยคดีออนไลน์ 41,799 เรื่อง มูลค่าความเสียหาย 3,261,230,174 บาท แจ้งความออนไลน์ 6,191 เรื่อง เรื่อง แจ้งความที่หน่วยงาน 4,243เรื่อง เฉลี่ยคดี 981เรื่องต่อวัน

ดร.กิตติ โฆษะวิสุทธิ์ ผู้จัดการบริหารความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศและความปลอดภัยไซเบอร์ ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะประธานศูนย์ประสานงานด้านความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคธนาคาร(TB-CERT)เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงในประเด็นนี้ เพราะช่วงหลังเกิดเหตุทั้งหมดเป็นลักษณะของการหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ ซึ่งจะไม่เกี่ยวกับทางเทคนิค  

ดร.กิตติ โฆษะวิสุทธิ์ ผู้จัดการบริหารความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศและความปลอดภัยไซเบอร์ ธนาคารกรุงเทพ

เข้าใจว่าร่าง แก้ไขเพิ่มเติมของพ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่จะมีผลในทางปฎิบัติเดือนก.พ.68นั้น เพื่อกันบัญชีม้า เหมือนตัดกลไกของการเอาเงินออกนอกระบบ ซึ่งธปท.ประสานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.) เพื่อจัดการกลไกเรื่องเอาเงินออก เรื่อง คริปโทเคอร์เรนซีด้วย 

สำหรับแนวทางร่วมรับผิดชอบนั้น ธปท.เลือกสิงคโปร์เป็นแม่แบบ ซึ่งน่าจะมีการหารือกันในรายละเอียดของหลักการ เช่น หน้าที่ของแต่ละภาคส่วน นอกเหนือจากที่ทางสิงคโปร์กำหนด หรือสัดส่วนความรับผิดจะแชร์กันอย่างไร รวมถึงกรณีที่จำนวนเงินที่ออกจำนวนการ/กรณีเอาเงินออกอย่างรวดเร็ว และกรณีต้องสงสัยมีนิยามน่าสงสัยกี่รูปแบบเพิ่มเติม

“แบงก์ชาติและทุกภาคส่วนทำงาน Proactive ในการปิดช่องทางอาชญากรรม โดยเฉพาะบัญชีม้า ซึ่งภาพรวมจะเห็นภัยพวกนี้ทุเลาเบาบางจากก่อนหน้าค่อนข้างมาก คือสามารถหยุดความเสียหาย เพราะก่อนหน้าจะเห็นว่า เราสูญเสียเยอะมากสำหรับอาชญากรรมทางไซเบอร์”

ส่วนในหลักการแนวทางร่วมรับผิดชอบแบงก์ชาติเลือกของสิงคโปร์เป็นแม่แบบ ซึ่งก็ต้องเวิร์กกัน เพื่อลงในรายละเอียดว่า แนวทางจะทำได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อไม่ให้กระทบลูกค้าที่ดีสุจริต ส่วนรูปแบบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีระยะหลังจะหลุดจากพวกแอปดูดเงินไม่ใช่โจรกรรมทางเทคนิก ดังนั้นทางทีมFraudของแต่ละแบงก์จะทำหน้าที่ศึกษาอยู่ในวงด้วย 

สถิติการแจ้งความคดีออนไลน์

แหล่งข่าวจากสถาบันการเงินกล่าวว่า ร่างแก้ไขเพิ่มเติมพรก.ปราบปรามอาชญากรรมทาไซเบอร์ มุ่งโฟกัสเรื่องโอนเงินไม่ได้/ไม่ให้โอนเงิน เป็นการดำเนินการเชิงรุกขึ้นแทนที่จะอายัด แล้วติดตาม เพื่อนำเงินคืนลูกค้า ซึ่งมีความยุ่งยากและใช้เวลา

ในแง่การเชื่อมบัญชีระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น เป็นกลไกที่แชร์ข้อมูลตามพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีปี 2566 ซึ่งข้อมูลที่แชร์กันได้มีความผิดพลาดของข้อมูลน้อยลง ข้อมูลมีความชัดเจนขึ้นสามารถบล็อคบัญชีได้

ส่วนที่ข้อมูลยังไม่ชัดหรือต้องสงสัยก็สามารถใช้มาตรการเสริมและในที่สุดนำไปสู่การบล็อคบัญชีเช่นกัน แต่กระบวนการจะเป็นขั้นตอน เพื่อไม่ให้กระทบลูกค้าดีที่สุจริต

ทั้งนี้แนวโน้ม น่าจะมีภาคส่วนต่างๆเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันเพิ่มไม่ว่า Line Facebook รวมถึงผู้ให้บริการเงินอิเล็คทรอนิกส์ นอกจาก กระทรวงดีอี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ธปท. สมาคมธนาคารไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับบุคคลหรือองค์กรนั้น หากจำเป็นต้องใช้ซิมเกินความจำเป็น ก็จะมีเงื่อนไขให้แจ้งค่าย Telco ทั้ง 3ค่าย : AIS DTAC และT RUE

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 4,071 วันที่ 16 - 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568