สหกรณ์ จับมือ “พาณิชย์” ขับเคลื่อน เกษตรคอมเมิร์ซ บนโลกออนไลน์

21 ก.ย. 2565 | 12:06 น.

กรมส่งเสริมสหกรณ์ จับมือ “พาณิชย์” ขับเคลื่อน เกษตรคอมเมิร์ซ บนโลกออนไลน์ ภายใต้ธีม ”เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” บนแพลตฟอร์มกลาง Thaitrade.com และ Phenixbox.com และอีก 2 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Freshket.com และแอปพลิเคชัน Maknet การเปิดเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ผลิตกับผู้ประกอบการ

สหกรณ์ จับมือ “พาณิชย์” ขับเคลื่อน เกษตรคอมเมิร์ซ บนโลกออนไลน์

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เผยว่า สหกรณ์ จับมือ “พาณิชย์” ขับเคลื่อน เกษตรคอมเมิร์ซ บนโลกออนไลน์ ภายใต้ยุทธศาสตร์  “ตลาดนำการผลิต”เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ เชื่อมโยงอุปสงค์และอุปทาน สร้างโอกาสทางการค้าสินค้าเกษตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ ลดปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาด และสร้างเสถียรภาพทางการค้าให้กับสินค้าเกษตรในระยะยาว บนแพลตฟอร์มกลาง Thaitrade.com และ Phenixbox.com และอีก 2 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Freshket.com และแอปพลิเคชัน Maknet  การเปิดเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ผลิตกับผู้ประกอบการครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสินค้าสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในการเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้า

สหกรณ์ จับมือ “พาณิชย์” ขับเคลื่อน เกษตรคอมเมิร์ซ บนโลกออนไลน์

 

ผ่านช่องทางออนไลน์และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร ตลอดทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น  ซึ่งจากผลการดำเนินงาน ระยะที่ 1 (ปี พ.ศ. 2564)  มีสหกรณ์เปิดร้านค้าบนแพลตฟอร์มกลาง 28 แห่ง วางจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มกว่า 90 รายการ มูลค่าการซื้อขายกว่า 82 ล้านบาทและผลการดำเนินงานในระยะ  ที่ 2 (ปี พ.ศ. 2565) มีสหกรณ์เปิดร้านค้าบนแพลตฟอร์มกลาง 60 แห่ง วางจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มกว่า 140 รายการ

สหกรณ์ จับมือ “พาณิชย์” ขับเคลื่อน เกษตรคอมเมิร์ซ บนโลกออนไลน์

 

“การจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหกรณ์ ซึ่งวันนี้มาร่วมกิจกรรม จำนวน 19 สหกรณ์ จากกลุ่มสินค้าข้าว  โคเนื้อ โคนม ผัก ผลไม้ กาแฟ ประมง และปศุสัตว์    จะได้พบปะกับผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีอำนาจซื้อในปริมาณมากขึ้น เพิ่มโอกาสด้านการตลาดให้หลากหลายขึ้น นำมา ซึ่งประโยชน์ที่จะเกิดต่อสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และเกษตรกรสมาชิกให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ก็ดีขึ้นตามไปด้วย”

 

 

 

ทั้งการร่วมเจรจาจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าบน 4  แพลตฟอร์มใหญ่ในครั้งนี้คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าการตลาดได้มากกว่า 10 ล้านบาท โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมในการเจรจาการค้าได้แก่ ข้าว นม และเนื้อ จากนั้นช่วงเดือนตุลาคม 2565 กรมส่งเสริมสหกรณ์จะร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ในการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจการค้าเพิ่มเติม โดยจะเน้นไปที่กลุ่มผู้ซื้อจากต่างประเทศ เปิดโอกาสให้สินค้าเกษตรไทยเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคต่างประเทศมากขึ้น    

 

 

นางสาวลักษณาวรรณ มโนชุมพู ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรห้างฉัตร จำกัด อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง หนึ่งในสหกรณ์ที่ได้นำสินค้าและผลิตภัณฑ์มาร่วมงาน ภายใต้แบรนด์สหกรณ์การเกษตรห้างฉัตรเปิดเผยว่าวันนี้ได้นำข้าวและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าวมาจำหน่ายและหาช่องทางการตลาดเพิ่ม โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิอินทรีย์สายน้ำแร่ ซึ่งเป็นข้าวหอมมะลิดำหนองคายพันธุ์พระราชทาน

 

โดยได้ส่งเสริมให้เกษตรกรนำไปปลูกในบริเวณพื้นที่สายน้ำแร่แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง บนเนื้อที่กว่า 50 ไร่ โดยสหกรณ์ฯจะรับซื้อผลผลิตทั้งหมดเฉลี่ยปีละ 30-40 ตัน สนนราคาตันละ 20,000 บาท นอกจากนี้ยังมีข้าวเหนียวสันป่าตอง ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวหอมมะลิ105 และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าวมาจำหน่ายและเจรจาหาคู่ค้าทางธุรกิจในครั้งนี้ด้วย

 

 “วันนี้เราอยากชูข้าวหอมมะลิอินทรีย์สายน้ำแร่ และกำลังจะเป็นข้าวจีไออีกด้วย อันที่จริงข้าวตัวนี้เราวางขายทั่วไปอยู่แล้วในห้างโมเดิร์นเทรดเช่นท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต   แต่การค้าขายทางออนไลน์เราเพิ่งเริ่ม ราคาอาจสูงกว่าข้าวทั่วไป เพราะเป็นข้าวอินทรีย์และปลูกในพื้นที่สายน้ำแร่ ในงานเกษตรคอมเมิร์ซ เราได้มีการเจรจาทำเอ็มโอยูไว้กับ 3 บริษัท  ซึ่งเป็นผู้ส่งออก จากนี้ไปก็จะกลับไปดำเนินการเรื่องเอกสารต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ต่อไปก็จะได้ตั้งหน้าตั้งตาผลิตอย่างเดียว  ต้องขอขอบคุณกรมส่งเสริมสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ที่เปิดโอกาสให้ทางสหกรณืฯห้างฉัตรมาร่วมในงานครั้งนี้”ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรห้างฉัตร จำกัด กล่าวอย่างภูมิใจ

 

สหกรณ์ จับมือ “พาณิชย์” ขับเคลื่อน เกษตรคอมเมิร์ซ บนโลกออนไลน์

 

ด้านนายวัฒนะ สัตยวงศ์ทิพย์ สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า งานเกษตรกรคอมเมิร์ซครั้งนี้มี 2 สหกรณ์ ในความรับผิดชอบเข้าร่วมคือสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด และสหกรณ์การเกษตรปักธงชัย จำกัด โดยได้นำผลิตภัณฑ์ข้าวหอมมะลิทุ่งสัมฤทธิ์ มาจำหน่ายและร่วมเจรจาทางธุรกิจกับผู้ประกอบการด้วย ซึ่งปกติข้าวหอมทุ่งสัมฤทธิ์นั้นมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคอยู่แล้ว เพราะมีวางจำหน่ายทั่วไป ทั้งในซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์และห้างโมเดิร์นเทรด  แต่การจำหน่ายทางออนไลน์โดยผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ผ่านมายังมียอดจำหน่ายน้อย  ดังนั้น งานนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการนำสินค้าและผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตเกษตรกรโดยตรงสู่ผู้บริโภคทั่วโลก

 

 “การขายทางออนไลน์เป็นอีกช่องทางการตลาดในธุรกิจสหกรณ์ เพราะเราจะได้ทราบว่ามีตลาดแน่นอนที่ไหนบ้างเพื่อวางแผนการผลิต ตอนนี้เราก็ได้มีการแนะนำ มีการจัดอบรมให้กับสหกรณ์ต่างๆ เพื่อให้เขารู้จักการขายทางออนไลน์ สหกรณ์ส่วนหนึ่งที่มีความพร้อมได้ทำมาก่อนแล้ว เราก็เข้าไปส่งเสริมต่อยอด พืชเศรษฐกิจของโคราช นอกจากข้าวก็มีมันสำปะหลังและข้าวโพด”สกจ.นครราชสีมากล่าวย้ำ

 

สหกรณ์ จับมือ “พาณิชย์” ขับเคลื่อน เกษตรคอมเมิร์ซ บนโลกออนไลน์
 

อย่างไรก็ตาม”เกษตรคอมเมิร์ซ บนโลกออนไลน์” ภายใต้ธีม”เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด”ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญตามนโยบายรัฐบาล”ตลาดนำการผลิต” ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพัฒนาภาคการเกษตรไทยไปสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางสินค้าเกษตรและอาหารคุณภาพของโลก     

 

โดยคณะกรรมการร่วมได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการใน 4 ด้านหลัก เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ได้แก่ 1. ด้านข้อมูล 2.ด้านแพลตฟอร์มกลาง 3. ด้านการกำหนดคุณภาพ มาตรฐาน และตรวจสอบย้อนกลับ และ 4. ด้านการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด ที่มีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรฯ เข้าร่วมเป็นประธานคณะอนุกรรมการ และได้ร่วมกันผลักดันงานในแต่ละด้าน