โลกป่วน ! แห่ตุนทอง ป้องกันเสี่ยง ส่งออกไทยครึ่งแรกโตพรวด 200%

20 ส.ค. 2565 | 00:11 น.

ผวาสงครามรัสเซีย-ยูเครนยื้อ โลกแห่ตุนทองคำป้องกันเสี่ยง ดันส่งออกไทย 6 เดือนโตเกือบ 200% นายกสมาคมค้าทองคำ ชี้เดือนที่เหลือ โตต่อหรือชะลอตัว ขึ้นกับสถานการณ์โลก-เงินบาท-ดอกเบี้ย-เงินเฟ้อ ด้านส่งออกอัญมณีฯ จากโรงงานมั่นใจถึงสิ้นปีโตไม่ต่ำ 10% สหรัฐออร์เดอร์เพิ่ม

 

ข้อมูลจากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร รายงานสถานการณ์ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ(รวมทองคำ) ช่วง 6 เดือนแรกปี 2565 มีมูลค่ารวม 287,184.51 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 109.63% เมื่อเทียบกับช่วงเดีวกันของปีก่อน ในจำนวนนี้เป็นการส่งออกทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป 158,493.21 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 197.01% และการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจากโรงงานผลิต 128,691.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.87%

 

โลกป่วน ! แห่ตุนทอง ป้องกันเสี่ยง ส่งออกไทยครึ่งแรกโตพรวด 200%

 

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การส่งออกทองคำที่เป็นสินค้าซื้อมาขายไปเพื่อเก็งกำไรช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 200% มีปัจจัยหลักจากช่วงที่ผ่านมาราคาทองในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ส่วนหนึ่งจากความกังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ผู้บริโภคซื้อหาทองคำเก็บเป็นสินทรัพย์มั่นคง / ปลอดภัย และเพื่อเก็งกำไรเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งตลาดในประเทศเคยขึ้นไปสูงสุดที่บาทละ 32,100 บาท เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และตลาดโลกขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 1,900 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ (เม.ย.)

 

จิตติ  ตั้งสิทธิ์ภักดี

 

“การส่งออกทองคำครึ่งปีแรกที่ขยายตัวมาก ผลพวงหลักจากราคาทองคำในต่างประเทศพุ่งสูงขึ้น จากความกังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้มีการส่งออกไปมาก ขณะตลาดในประเทศมีการนำทองคำเข้ามาลดลง เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าที่เป็นประชาชนทั่วไปจะนำทองออกมาขายมากกว่าซื้อเก็บ เพราะยังขายได้ราคาสูง จากเศรษฐกิจไม่ดี และราคาสินค้าอุปโภคบริโภคสูงขึ้น สวนทางกำลังซื้อลดลง ซึ่งทองที่ประชาชนนำมาขายก็มีการส่งออกไปด้วย”

 

สำหรับการส่งออกทองคำ ณ เวลานี้อยู่ในช่วงชะลอตัว จากราคาตลาดโลกปรับตัวลดลง (18 ส.ค.ราคาทองณ ตลาดนิวยอร์คอยู่ที่ 1,776.70 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์) เดือนที่เหลือของปีนี้การส่งออกจะขยายตัวได้มากน้อยเพียงใด ขึ้นกับหลายปัจจัย ที่สำคัญคือ ค่าเงินบาทที่เวลานี้แข็งค่าขึ้นจากระดับ 37 บาทต่อดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ราคาทองถูกลง และมีกำไรลดลง

 

นอกจากนี้จากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นทั่วโลกมีผลต่อกำลังซื้อที่ลดลง การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯที่ยังต้องจับตาว่าจะส่งผลทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกถดถอยหรือไม่ ซึ่งจะส่งผลต่อการจับจ่ายของผู้บริโภค รวมถึงสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนจะรุนแรงขึ้นหรือไม่ ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่จะส่งผลต่อการซื้อขาย และผลต่อราคาทองทั้งในและต่างประเทศ

 

ด้าน นายสมชาย พรจินดารักษ์ ประธานสมาพันธ์อัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในส่วนของการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจากโรงงานผลิต (ไม่รวมการส่งออกทองคำที่ซื้อมาขายไป) ช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ ยังมีทิศทางแนวโน้มที่ดี (ส่งออกได้ 128,691.30 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 54%) ผลจากตลาดส่งออกหลักของไทยเช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น กลับมาเปิดประเทศ และเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวหลังโควิดคลี่คลาย ทำให้มีการนำเข้าสินค้าไปจำหน่ายเพิ่มขึ้น

 

สำหรับสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ส่งออกได้เพิ่มขึ้น เช่น เครื่องประดับแท้ทำด้วยเงิน เครื่องประดับแท้ทำด้วยทอง เครื่องประดับอัญมณีเทียม และอัญมณีสังเคราะห์ เป็นต้น ทั้งนี้คาดในสิ้นปีนี้การส่งออกสินค้าอัญมณีฯ(ไม่รวมทองคำ) จะขยายตัวได้มากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปี 2564 (ที่ส่งออกได้ 1.94 แสนล้านบาท) แต่จะยังไม่กลับไปอยู่ในระดับใกล้เคียงเดิมในปี 2562 ก่อนเกิดโควิด (ปี 2562 ส่งออกได้ 2.51 แสนล้านบาท)

 

โลกป่วน ! แห่ตุนทอง ป้องกันเสี่ยง ส่งออกไทยครึ่งแรกโตพรวด 200%

 

“ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาคือเศรษฐกิจสหรัฐฯที่มีขนาดใหญ่สุดของโลกและเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกหลักสินค้าอัญมณีฯของไทยจะถดถอยลงหรือไม่ หลังเฟดเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงเพื่อกดเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดีเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายของผู้ค้าอัญมณีฯในประเทศ ในวันที่ 1-4 กันยายนนี้ทางสมาพันธ์ฯจะจัดงาน Thailand Gems & Jewelry Fair ณ ไอคอนสยาม”

 

ภูสิต  รัตนกุล  เสรีเริงฤทธิ์

 

ขณะที่ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ระหว่างวันที่ 7-11 กันยายนนี้ ทางกรมฯ ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จะจัดงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair ครั้งที่ 67 ณ อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งจะเป็นการจัดงานอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรก หลังจากว่างเว้นมา 2 ปี จากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 คาดจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 10,000 รายจากทั่วโลกและเกิดการสั่งซื้อไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท

 

หน้า 1 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3811 วันที่ 21 -24 สิงหาคม 2565