แพรนด้าฯ ออร์เดอร์พุ่ง ยอดขายไตรมาสสอง 878 ล้าน โกยกำไรต่อเนื่อง

16 ส.ค. 2565 | 04:57 น.

แพรนด้า จิวเวลรี่ เผยผลประกอบการ Q2 ปี 65 ยอดขาย 878 ล้านบาท มีผลกำไรต่อเนื่อง 4 ไตรมาส เผยออร์เดอร์ทะลักสวนทางเศรษฐกิจโลกทิศทางชะลอตัว ตอกย้ำความเชื่อมั่นในความต้องการของผู้บริโภคของฐานลูกค้าบริษัทฯ

 

รายงานข่าวจาก บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) (บมจ.) หรือ “PDJ” ผู้ผลิต จัดจำหน่ายและค้าปลีกครื่องประดับ และเป็นผู้นำด้านการส่งออกเครื่องประดับอัญมณีของไทยที่มีการกระจายฐานลูกค้าไปยังภูมิภาคที่สำคัญของโลก อาทิ อเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย  เผยผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่ฟื้นตัว กลับมามีผลกำไรได้อย่างต่อเนื่องตลอด 4 ไตรมาสที่ผ่านมา 

 

นายชนัตถ์ สรไกรกิติกูล ประธานกรรมการการเงินและบริหารความเสี่ยง  บมจ. แพรนด้า จิวเวลรี่ เปิดเผยว่า จากภาพรวมปี 2565  แม้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มปรับชะลอตัวลงจากปัจจัยลบต่าง ๆ อาทิ สงครามรัสเซีย-ยูเครน  การดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัวของธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ  และอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น แต่อุตสาหกรรมกลุ่มลักชัวรี่ (Luxury Industry) มีโอกาสเติบโตขึ้น

 

สอดคล้องกับทิศทางของยอดคำสั่งซื้อในไตรมาส 2 และตัวเลขช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2565  ที่บริษัทฯมีออเดอร์ในมือสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ตอกย้ำให้เห็นถึง ความเชื่อมั่นในความต้องการของผู้บริโภคของฐาน​ลูกค้าบริษัทฯ

 

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 บริษัทฯมียอดขาย 878 ล้านบาท มีปัจจัยสนับสนุนมาจากกลุ่มธุรกิจการผลิต คิดเป็น 77% เป็นผลจากยอดคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นในระหว่างไตรมาส 2/2565 สาเหตุหลักจากการวางแผนร่วมกับลูกค้าในการส่งออเดอร์ล่วงหน้าเข้ามาจำนวนมาก 

 

นอกจากนี้ แพรนด้า จิวเวลรี่ ยังเติบโตจากกลุ่มธุรกิจ Omnichannel Distribution คิดเป็น 23% ซึ่งเป็นการขายในรูปแบบ Omnichannel ภายใต้แบรนด์สินค้าของตนเอง (Owned Brands) โดยมีการปรับรูปแบบการให้บริการที่เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้ามากขึ้น รวมถึงการขยายช่องทางจัดจำหน่ายไปยัง Online เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตของยอดขายจากแบรนด์ Prima Gold Thailand ที่เป็นของกลุ่มบริษัทฯ ส่งผลให้การดำเนินงานรายไตรมาส เริ่มมีกำไรจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องทั้ง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา  สะท้อนให้เห็นถึงการมีสุขภาพทางการเงินที่ดีอย่างต่อเนื่อง

 

นายชนัตถ์ กล่าวอีกว่า แพรนด้าฯ มุ่งเน้นการสร้างฐานลูกค้าเชิงกลยุทธ์ที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อให้บริษัทฯมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง รวมถึงมุ่งเน้นการทำงานร่วมกับลูกค้าในรูปแบบ Strategic Partner ซึ่งมีการวางแผนร่วมกันในระยะยาวกับลูกค้ารายสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับลูกค้าในระยะยาวในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจที่พร้อมจะเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน