นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากที่กลุ่มบางจากฯได้ร่วมก่อตั้ง Carbon Markets Club (CMC) ร่วมกับพันธมิตรรวม 11 องค์กร เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2564 ซึ่งเป็น platform ที่รองรับทุก ๆ certification มาเสนอขายใน Marketplace ผ่านเว็บไซต์ www.carbonmarketsclub.com
ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาและเลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทยหรือ T-VER รวมถึงใบรับรองการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate - REC) ซึ่งเป็นช่วยกระตุ้นให้เกิดความคึกคักในการซื้อขายคาร์บอนเครดิตในประเทศไทย และการสนับสนุนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศผ่านการซื้อขายคาร์บอนเครดิตโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. และแพลตฟอร์มซื้อขายพลังงานหมุนเวียนและคาร์บอนเครดิตของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 พบว่า แนวโน้มความสนใจการซื้อขายคาร์บอนเครดิตในประเทศนั้นขยับตัวสูงขึ้นมาก หลังจากก่อตั้ง CMC มาครบ 1 ปี มีรายงานยอดการซื้อขายคาร์บอนเครดิตผ่าน CMC ในส่วนของ T-VER ปริมาณ 218,167 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และยอดขายใบรับรองการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (REC) จำนวน 127,934 MWh หรือคิดเป็นปริมาณเทียบเท่ารวมประมาณ 277,017 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ หรือคิดเป็นประมาณการปลูกต้นไม้ที่มีอายุ 10 ปี กว่า 32 ล้านต้น ใกล้เคียงกับตัวเลขซื้อขาย T-VER ที่มีการรายงานตลอดทั้งปีในปี 2564 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความสนใจการซื้อขายคาร์บอนเครดิตที่สูงขึ้น เป็นผลดีกับตลาดในประเทศไทย ที่ข้อมูลในปัจจุบันบ่งชี้ว่ามีอุปทานมากกว่าอุปสงค์อยู่หลายเท่าตัว
“ในครึ่งแรกของปี 2565 นี้ ยอดซื้อขายคาร์บอนเครดิต T-VER คิดเป็น 95% ของยอดที่มีการชดเชยขณะที่ยอดขาย REC ซึ่งมีการรายงานตัวเลขเป็นรายปี โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) เมื่อปี 2564 มีอัตราการซื้อขาย REC ผ่าน CMC คิดเป็น 27% ของยอดซื้อขายทั้งหมด”
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า อย่างไรตาม การซื้อขายคาร์บอนเครดิตจากโครงการของไทยในตลาดคาร์บอนภายในประเทศนั้น ปัจจุบันยังมีปริมาณไม่มากนัก เพราะตลาดคาร์บอนของไทยเป็นตลาดภาคสมัครใจ มีขนาดเล็ก มีอัตราเติบโตเฉลี่ยตามข้อมูลขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก 8.5 % ต่อปี รวมถึงอัตราการตระหนักรู้ของประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับความสำคัญของการซื้อขายคาร์บอนเครดิตก็ยังมีค่อนข้างน้อย เป็นเหตุผลที่ CMC ให้ความสำคัญกับการสร้างการรับรู้ การให้ข้อมูลข่าวสารผ่านกิจกรรมต่าง ๆ และเชิญชวนให้องค์กรและประชาชนทั่วไปมาสมัครเป็นสมาชิกโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ปัจจุบัน CMC มีจำนวนสมาชิก 40 ราย (ประเภทนิติบุคคล 28 รายและประเภทบุคคล 12 ราย) และมีแผนจัดกิจกรรมสร้างความรู้ความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง เช่น Online Webinar เป็นประจำทุกเดือน ครอบคลุมหัวข้อที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศโดยได้รับความร่วมมือจากองค์กรต่าง ๆ ทั้งในและนอกประเทศ และได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้เข้าร่วมฟังสัมมนา เช่น เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ร่วมกับ Enterprise Singapore เชิญบริษัทต่าง ๆ ในประเทศสิงคโปร์มาร่วมแลกเปลี่ยนเรื่องราวเกี่ยวกับ climate change และการซื้อขายคาร์บอนเครดิต และมีการใช้สื่อเช่นเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และไลน์กลุ่มสำหรับสมาชิกเพื่อเผยแพร่และแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบทความรายเดือนในซีรี่ส์ “The Road to Decarbonization” โดย ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมชั้นแนวหน้าของประเทศ พร้อมทั้งบทความจากบริษัทสมาชิกจากหลากหลายธุรกิจ