NEPS ติดโซลาร์รูฟท็อป "ร.ร.นานาชาติโชรส์เบอรี-อำนวยศิลป์" รวม 1,126 kW

09 ส.ค. 2565 | 07:34 น.

NEPS ติดโซลาร์รูฟท็อป "ร.ร.นานาชาติโชรส์เบอรี-อำนวยศิลป์" รวม 1,126 kW ประหยัดค่าไฟได้ปีละ 5 ล้านกว่าบาท และลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์แตะ 8 แสนกิโลกรัมต่อปี

นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิว เอ็นเนอร์จี้ พลัส โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ NEPS เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการเข้าไปติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ให้กับโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ-ริเวอร์ไซด์ แคมปัส และโรงเรียนอำนวยศิลป์ 

 

ซึ่งมีแนวทางการบริหารโรงเรียนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม มีแผนงานด้านการประหยัดพลังงาน รวมถึงมีแนวคิดและสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด โดยเฉพาะการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ผ่านโซลาร์รูฟท็อปที่จะช่วยดูแลโลกในระยะยาว 

 

ทั้งนี้ บริษัทเข้าไปร่วมวางแผนการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้กับโรงเรียน ตั้งแต่การออกแบบพื้นที่และการติดตั้งให้มีความเหมาะสมและกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม โดยโรงเรียนทั้งสองแห่งมีการลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปรวมกว่า 60 ล้านบาท ซึ่งโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ-ริเวอร์ไซด์ แคมปัส มีขนาดติดตั้ง 998 กิโลวัตต์ บนพื้นที่ 420 ตารางเมตร มูลค่าการลงทุนกว่า 30 ล้านบาท สามารถประหยัดค่าไฟได้ปีละ 5,000,000 บาท และลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ได้ 700,000 กิโลกรัมต่อปี

ขณะที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ทำการติดตั้งระบบโซลาร์ขนาด 128 กิโลวัตต์ บนพื้นที่ 60 ตารางเมตร ประหยัดค่าไฟได้ปีละ650,000 บาท ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ได้ 90,000 กิโลกรัมต่อปี และ NEPS ยังชนะประมูลการก่อสร้างหลังคาเพื่อรองรับการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป รวมถึงงานปรับปรุงอาคารเรียนและอาคารอเนกประสงค์ รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 30 ล้านบาท 

 

นายตรีรัตน์ กล่าวอีกว่า โรงเรียนเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เหมาะสมกับการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป เนื่องจากมีการใช้ไฟฟ้าในปริมาณมาก โดยเฉพาะช่วงเวลากลางวันที่มีการทำการเรียนการสอน หรือการทำกิจกรรมในพื้นที่ต่างๆ ภายในโรงเรียน ซึ่งการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปจะช่วยลดต้นทุนและประหยัดค่าไฟได้ในระยะยาว 

 

NEPS ติดโซลาร์รูฟท็อปให้ ร.ร.นานาชาติโชรส์เบอรี-อำนวยศิลป์

 

อย่างไรก็ดี โรงเรียนที่มีความสนใจและต้องการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปจะต้องมีพื้นที่หลังคาที่กว้างและแข็งแรงเพียงพอสำหรับการติดตั้งแผงโซลาร์

การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปนอกจากจะช่วยโรงเรียนประหยัดค่าไฟแล้วยังเป็นการช่วยประหยัดพลังงานและลดการเกิดมลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นจากการผลิตไฟฟ้า ถือได้ว่าแนวทางสำหรับโรงเรียนที่สนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ต้องการสร้างโรงเรียนสีเขียว และต้องการเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดภาวะโลกร้อน รวมถึงสร้างสรรค์โลกให้มีความยั่งยืน 

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างการพูดคุยและทำสัญญากับโรงเรียนอื่นๆ เพิ่มเติม โดยมีหลายโรงเรียนได้ให้ความสนใจในการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งแผงโซลาร์เซลล์ในปัจจุบันได้รับการอัปเกรดจากเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าแผ่นโซลาร์สมัยก่อนถึง 1 เท่าตัว ทำให้การคืนทุนเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว