ลุ้น กรมบัญชีกลาง เคาะผู้สังเกตการณ์ ดัน ขสมก.จ้างเอกชนวิ่งรถอีวี 224 คัน

31 พ.ค. 2565 | 10:37 น.

ขสมก.ลุ้นกรมบัญชีกลางไฟเขียวส่งรายชื่อผู้สังเกตการณ์ ฟากขสมก.เตรียมทำทีโออาร์ประมูลจ้างเอกชนวิ่งรถอีวี 224 คัน 953 ล้านบาท คาดได้ผู้ชนะไตรมาส3ปี65

นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า สำหรับโครงการจ้างเหมาบริการจัดหารถโดยสารประจำทางพร้อมพนักงานขับรถ จำนวน 224 คัน มูลค่า 953 ล้านบาท ผ่านการพิจารณาเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารกิจการ(บอร์ด) ขสมก. เบื้องต้น ขสมก.ได้ทำหนังสือถึงกรมบัญชีกลาง เพื่อขอเข้าสู่โครงการข้อตกลงคุณธรรม โดยกรมบัญชีกลางต้องส่งรายชื่อ ผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์ในการจัดทำร่างเอกสารขอบเขตของงาน (TOR) เนื่องจากโครงการของ ขสมก.มีนโยบายมุ่งเน้นให้เกิดความโปร่งใส ในการจัดหาตัวผู้รับจ้างให้มากที่สุด ซึ่งปัจจุบัน ขสมก.อยู่ระหว่างรอรายชื่อจากกรมบัญชีกลาง

 

 

 

นายกิตติกานต์ กล่าวต่อว่า หลังจากได้รายชื่อจากกรมบัญชีกลางแล้ว ขสมก.จะดำเนินการจัดทำ ทีโออาร์ และจัดทำประชาพิจารณ์ เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน และกลุ่มผู้ลงทุน หากไม่มีการคัดค้านจะเข้าสู่กระบวนการประกาศหาผู้รับจ้าง ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลา 3 เดือน และลงนามสัญญากับผู้รับจ้างที่ชนะการประมูลภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2565

"สิ่งที่เราเป็นห่วง ณ ตอนนี้ถ้าเรายังไม่ได้รายชื่อจากกรมบัญชีกลาง หรือมีผู้คัดค้านการประมูล จะทำให้เราต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ แต่หากได้รายชื่อมาแล้ว ก็สามารถดำเนินการได้เลย ทั้งนี้ หลังจากประมูลเสร็จแล้ว จะทยอยส่งมอบรถล็อตแรก จำนวน 224 คัน ภายในระยะเวลา 120-180 วัน หรือขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทีโออาร์ โดยมีระยะสัญญาเช่า 2 ปี ทำให้เป็นข้อจำกัดเพราะมีระยะเวลาสั้นอาจหาเอกชนที่มีศักยภาพมาร่วมประมูลได้ยาก"

 

 

นายกิตติกานต์ กล่าวว่า สำหรับการประมูลในครั้งนี้เป็นการประมูล จัดหารถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (อีวี) พนักงานขับรถ การซ่อมบำรุง และติดตั้งระบบเทคโนโลยีภายในรถ เช่น ระบบอีทิกเก็ต และจีพีเอส เป็นต้น ซึ่งรถโดยสารทั้ง 224 คัน จะให้บริการในเขตเดินรถที่ 4 และเขตการเดินรถที่ 8 เนื่องจากเป็นเส้นทางที่มีปริมาณการจราจรติดขัด และก่อให้เกิดมลพิษสูง

นายกิตติกานต์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน ขสมก.มีรถให้บริการจำนวน 2,885 คัน ซึ่งในจำนวนนี้นำมาให้บริการ 2,700 คัน หรือคิดเป็น 95% ส่วน 5% คือรถที่สำรองไว้กรณีที่มีรถเกิดขัดข้องระหว่างให้บริการ ซึ่ง ขสมก.ได้มีการตรวจสภาพรถก่อนให้บริการทุกครั้ง สำหรับการให้บริการของ ขสมก.ในปัจจุบัน มีผู้โดยสารใช้บริการวันจันทร์-ศุกร์อยู่ที่ประมาณ 700,000 คนต่อวัน ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ 600,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2565

 

 

 "ขณะนี้ ขสมก.ได้ปรับแผนให้เพิ่มความถี่ในช่วงเวลาเร่งด่วนมากขึ้น และยืนยันว่าแม้ในขณะนี้จะยังไม่สามารถจัดหารถเมล์ใหม่มาให้บริการประชาชนได้แต่รถที่มีจำนวน 2,885 คันจะพยายามดูแลเรื่องความปลอดภัยในการให้บริการและให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสาร"

 

 

นอกจากนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้ นั้น ขสมก.มีต้นทุนหลัก 3 ส่วน ได้แก่ 1.น้ำมันเชื้อเพลิง 2.ค่าเหมาซ่อม และ 3.ด้านบุคลากร โดยต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของขสมก.อยู่ที่ 1,200 ล้านบาทต่อปี ในจำนวนรถที่ให้บริการ 2,885 คัน เฉลี่ยรถมีใช้น้ำมันอยู่ที่ 142,000 ลิตรต่อวัน ดังนั้น ราคาของน้ำมันที่ปรับขึ้น 1 บาท ส่งผลให้ ขสมก.ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 140,000 บาทต่อวัน ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 3 บาท ขสมก.ต้องจ่ายเพิ่มประมาณ 450,000 บาทต่อวัน