ลุ้นต่อ "คนละครึ่งเฟส5" ล่าสุด สภาพัฒน์ พร้อมรับข้อเสนอ

25 พ.ค. 2565 | 06:28 น.

คนละครึ่ง เฟส 5 ล่าสุด เลขาธิการ สภาพัฒน์ ตอบชัดอีกครั้งหลังหลายคนเรียกร้องให้ดันออกมา โดยเฉพาะภาคเอกชน ยืนยันพร้อมรับข้อเสนอ ลุ้นช็อตต่อไป ทำต่อไหม ต้องคุยกับใครเพิ่ม

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึง โครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ว่า สศช.คงต้องหารือกับหน่วงยงานที่เกี่ยวข้องถึงการผลักดัน คนละครึ่ง เฟส 5 ก่อน ซึ่งขณะนี้เข้าใจว่ามาตรการนี้ได้รับความนิยมจากประชาชน แต่การจะผลักดันออกมาหรือไม่ต้องพิจารณาก่อน

 

“เข้าใจว่ามาตรการคนละครึ่ง เฟส 5 ทุกคนชอบ ซึ่งรัฐบาลเองก็ดีใจที่ทุกคนชอบมาตรการนี้ แต่ว่าต้องบอกตามตรงว่า มาตรการในลักษณะนี้เป็นมาตรการเฉพาะ ที่จะทำในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แล้วก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนไปให้เกิดความเหมาะสมกับสถานการณ์ด้วย”

 

อย่างไรก็ตามด้วยข้อเสนอของหน่วยงานภาคเอกชนหลายแห่งที่สนับสนุนให้ผลักดันมาตรการนี้ออกมา สศช. ในฐานะของประธานคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ตามพ.ร.ก.กู้เงินฯ 5 แสนล้านบาท ก็พร้อมรับข้อเสนอไปพิจารณาว่าจะดำเนินการต่อไปยังไงได้บ้าง 

นายดนุชา กล่าวว่า ในรายละเอียดของคนละครึ่ง คงต้องมาคุยกันอีกทีว่าจะเอายังไง เพราะยังไม่รู้ว่าจะมีมาตรการนี้ออกมาหรือไม่ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่อยากให้คนคุ้นชินกับคนละครึ่งมากเกินไป

 

เพราะมาตรการลักษณะนี้ไม่ใช่มาตรการประจำ ใช้เงินสูงอาจส่งผลต่อภาระงบประมาณ จนอาจกลายเป็นปัญหาระยะยาวได้ แม้มาตรการนี้จะช่วยลดค่าครองชีพ และกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนก็ตาม

 

ขณะที่โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ส่วนต่อขยายนั้น เดิมกำหนดเริ่มต้นโครงการในเดือนมิถุนายน 2565 แต่ด้วยพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) จะเริ่มมีการบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป

 

ทำให้ธนาคารกรุงไทยต้องปรับปรุงระบบให้สอดรับกับกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ใช้บริการก่อน ซึ่งในเร็ว ๆ นี้ จะนัดหารือกันให้ได้ข้อสรุป จากนั้นจึงเริ่มดำเนินโครงการ

นายดนุชา กล่าวว่า ในการดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ล่าสุดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เสนอรายละเอียดมายังคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้แล้ว

 

หากดำเนินการในส่วนของระบบดังกล่าวเสร็จแล้ว จะเสนอเข้าคณะกรรมการฯ ก่อนเสนอครม.ตามขั้นตอนต่อไป โดยจะเปิดให้สิทธิประมาณ 1 – 1.5 ล้านสิทธิ ตามวงเงินที่เหลืออยู่ของโครงการ เช่นเดียวกับโครงการทัวร์เที่ยวไทยด้วย