นายพงษ์ทร วิเศษสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ สายงานธุรกิจองค์กรบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวในงานสัมมนา The Big Issue 2022:ผลไม้ไทย ผลไม้โลก ช่วงเสวนาปฏิบัติการรวมพลัง ทุเรียนแสนล้าน ฝ่าด่าน ZERO COVID ว่า ที่ผ่านมาไปรษณีย์ไทยมีระบบการขนส่งสินค้าในรูปแบบของแห้ง,เอกสาร,กลุ่มสินค้าอีคอมเมิร์ซ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ซึ่งมีการผลิตทางการเกษตรทั้งผลไม้สดและการแปรรูปกระจายสินค้าที่ดีและมีคุณภาพอยู่ทั่วประเทศ แต่ด้วยระยะทางทำให้มีข้อจำกัดการเข้าถึงแหล่งผลิตต่างๆ ทำให้ไปรษณีย์ไทยเล็งเห็นว่า ควรพัฒนาระบบการขนส่งเพื่อนำผลผลิตที่ดีทั่วไทยนำมาให้ผู้บริโภคได้รับประทาน ปัจจุบันไปรษณีย์ไทยมีการพัฒนาระบบขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิและมีการออกแบบการขนส่ง เช่น กล่องบรรจุภัณฑ์ รถยนต์ในการขนส่งผลไม้ ซึ่งในอนาคตจะมีการแยกประเภทการขนส่งสินค้าด้วย
“สิ่งที่ไปรษณีย์ไทยดำเนินการในตอนนี้คือเราทำเพื่อสนับสนุนภาคการเกษตรให้มีระบบการขนส่งที่ดีมีมาตรฐาน ส่วนผู้บริโภค กรณีที่เป็นร้านค้าหรือร้านอาหารอาจมีช่องทางการซื้อขายและใช้การขนส่งโลจิสติกส์อีกรูปแบบนึง แต่ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคทั้งผู้ซื้อและผู้ขายนิยมขายแบบออนไลน์มากขึ้น อีกทั้งหลายสวนผลไม้มีการไลฟ์สดขายสินค้าผ่านออนไลน์”
ส่วนแนวโน้มผู้ประกอบการ ชาวสวนหรือสมาท์ฟาร์มเมอร์จะใช้วิธีการขายตรงถึงผู้บริโภค ทำให้ได้ราคาสูงขึ้น ขณะเดียวกันทางผู้ซื้อและผู้ขายจะมีการการันตีสินค้าที่จัดส่งให้มีคุณภาพ เช่น ทุเรียนจะมีระยะเวลาการตัดเพื่อนำมาบริโภค รวมทั้งมีการการันตีด้านคุณภาพ ซึ่งไปรษณีย์ไทยมีการพัฒนาระบบการรับผลไม้ถึงสวน และมีการการันตีระยะเวลาการส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภค
นอกจากนี้ทางไปรษณีย์ไทยยังใช้พื้นที่ทำการไปรษณีย์ไทย จำนวน 1,000 สาขาทั่วประเทศ เป็นจุดช่วยจำหน่ายสินค้าทางการเกษตร ส่วนผลไม้อย่างทุเรียนได้มีการประสานความร่วมมือกับชาวสวนเพื่อนำทุเรียนที่มีคุณภาพดีมาวางจำหน่าย ปัจจุบันก็ยังไม่เพียงพอให้จำหน่าย เพราะกระแสตอบรับดีมาก ทั้งนี้ยังมีช่องทางการจำหน่ายทางออนไลน์ของไปรษณีย์ไทย www.thailandpostmart.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ส่งเสริมสินค้าทางการเกษตรและสินค้าแปรรูปการเกษตรของชุมชนโดยตรง ที่มีระบบการส่งสินค้าที่ให้บริการถึงจุดหมายปลายทางของผู้บริโภค