ราคาน้ำมันดีเซล 1 พ.ค. ล่าสุด ตรึงต่อถึงกี่บาท แนวโน้มขึ้นราคาอีกเท่าไหร่

01 พ.ค. 2565 | 05:09 น.

ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล ล่าสุด 1 พ.ค. 2565 หลังรัฐบาลปรับเพดาน ตรึงราคารอบใหม่ ไปดูกันว่าเพดานใหม่จะตรึงราคาต่อถึงกี่บาท และแนวโน้มจากนี้จะขึ้นราคาอีกเท่าไหร่ เพิ่มขึ้นยังไง และจะมีมาตรการอะไรมาช่วยอีกหรือไม่

จากกรณีการยกเลิกการตรึงราคาน้ำมันดีเซลขายปลีก 30 บาทต่อลิตร โดยการขยับเพดานการตรึงราคาออกมาเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐในการเข้าไปอุดหนุน จนทำให้ราคาน้ำมันดีเซล วันนี้ 1 พฤษภาคม 2565 ปรับขึ้นราคาพรวดเดียว โดยเฉพาะราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลทุกชนิดปรับขึ้นถึง 2 บาทต่อลิตร

 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบเพดานการตรึงราคาน้ำมันดีเซลครั้งใหม่ เทียบกับเพดานการตรึงราคาเดิม มีข้อมูลดังนี้   

 

ณ วันที่ 30 เมษายน 2565 

  • กรอบเพดานราคาอยู่ที่ 30 บาทต่อลิตร 

 

ราคาขายปลีก 

  • ดีเซล B7 อยู่ที่ 29.94 บาทต่อลิตร 
  • ดีเซล B10 อยู่ที่ 29.94 บาทต่อลิตร
  • ดีเซล B20 อยู่ที่ 29.94 บาทต่อลิตร
  • ไฮพรีเมี่ยมดีเซล B7 อยู่ที่ 35.96 บาทต่อลิตร

 

ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 

  • กรอบเพดานราคา 35 บาทต่อลิตร 

 

ราคาขายปลีก 

  • ดีเซล B7 อยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตร 
  • ดีเซล B10 อยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตร
  • ดีเซล B20 อยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตร
  • ไฮพรีเมี่ยมดีเซล B7 อยู่ที่ 37.96 บาทต่อลิตร

สำหรับการปรับราคาขึ้นให้จนถึงเพดานราคา 35 บาทต่อลิตรครั้งนี้ ถือว่าเป็นไปตามมติของคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2565 โดยช่วงแรงได้เห็นชอบแนวทางปรับราคาน้ำมันดีเซลมาอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ก่อน

 

ส่วนในระยะต่อไปจะมีการประเมินแนวโน้มเป็นรายสัปดาห์ ก่อนพิจารณาขยับขึ้นเป็นขั้นบันไดครั้งละไม่เกิน 1 บาท เพื่อให้ถึงกรอบเพดานราคา 35 บาทต่อลิตร โดยจะพิจารณาสถานการณ์โลกประกอบ เนื่องจากการปรับราคาขึ้นลงของราคาน้ำมันดีเซลจะขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันในตลาดโลกเป็นหลัก

 

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ได้มอบหมายให้นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ไปพิจารณาว่า ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลที่แท้จริงจะอยู่ที่เท่าไหร่ เพื่อให้การปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล เป็นการปรับเพิ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด

 

รวมทั้งยังขอให้ไปพิจารณาส่วนที่เกินจากกรอบเพดานใหม่จะสามารถอุดหนุนให้ต่ำกว่าเพดานได้หรือไม่ โดยอาจดำเนินการผ่านกลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

อย่างไรก็ตามในการดำเนินการอุดหนุนผ่านกลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น พบว่า อาจทำได้โดยมีข้อจำกัด เพราะจากการตรวจสอบสถานะกองทุนฯ ณ วันที่ 24 เมษายน 2565 พบว่า กองทุนฯ ติดลบสูงถึง 56,278 ล้านบาท แบ่งเป็น น้ำมันติดลบ 24,302 ล้านบาท และก๊าซ LPG ติดลบ 31,976 ล้านบาท 

 

สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง