มูลนิธิรวมพัฒน์ ตั้งกองทุนดึงเอกชนร่วมทุนพัฒนาบล็อกเชนเชื่อมหมู่บ้าน

18 เม.ย. 2565 | 07:32 น.

มูลนิธิรวมพัฒน์ ลุยตั้งกองทุนส่วนบุคคล ลงทุนในกองทุนร่วมพัฒนานวัตกรรมบล็อกเชนเชื่อมเครือข่ายหมู่บ้าน โดยรวบรวมและบริหารจัดการเงินลงทุนมูลค่าขั้นต้นกว่า 5,000 ล้านบาท จากผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ ซึ่งมีความพร้อม ช่วยฟื้นเศรษฐกิจฐานราก

นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ประธานมูลนิธิรวมพัฒน์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้จัดตั้งกองทุนส่วนบุคคล ลงทุนในกองทุนร่วมส่วนทุนที่มีกองย่อยของธุรกิจพัฒนาบล็อกเชนเชื่อมเครือข่ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นกลไกในการรวบรวมและบริหารจัดการเงินลงทุนมูลค่าขั้นต้นกว่า 5,000 ล้านบาท

 

จากผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ ซึ่งมีความพร้อม และความสนใจในการพัฒนานวัตกรรมบล็อกเชนเชื่อมเครือข่ายหมู่บ้าน เพื่อฟื้นเศรษฐกิจ คืนคุณภาพชีวิต สร้างงาน สร้างรายได้ให้ทุกบ้านทั่วไทย

 

นายรักษ์พงษ์ กล่าวว่า ล่าสุดได้ลงนามความร่วมมือกับ บลจ.เรนเนสซานซ์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาเพื่อเป็นการเดินตามแผนการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินที่จะนำไปสู่การสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนระหว่างเครือข่ายหมู่บ้านของประเทศไทยได้

 

เนื่องจากปัจจุบันสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจระดับฐานราก หรือระดับหมู่บ้านนั้นหายไปจากระบบ จนทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ของประเทศต้องพบกับความเดือนร้อนในการทํามาหากินและดำรงชีวิต เพราะเงินนั้นยังกระจุกตัวอยู่กับเอกชนขนาดใหญ่ 

ขณะที่เอกชนขนาดใหญ่เองก็ไม่กล้าที่จะนำเงินดังกล่าวมาลงทุน เนื่องจากกลัวความเสี่ยงและความไม่คุ้มค่าจากกำลังซื้อที่หดหายไปจากระบบ ดังนั้นมูลนิธิรวมพัฒน์ จึงได้ร่วมกับ บลจ.เรนเนสซานซ์ เพื่อจัดตั้งกองทุนนี้ คือ Private Fund Feeder to Private Equity Fund for A Sector of Developing Village Network Blockchain ขึ้น เพื่อพัฒนานวัตกรรมบล็อกเชนเชื่อมเครือข่ายหมู่บ้าน

 

สำหรับรูปแบบกองทุนลักษณะดังกล่าวได้มีการจัดตั้งในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สิงคโปร์ มีเป้าหมายในการสร้างอัตราผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนได้เฉลี่ยสูงถึง 18% ต่อปี อีกทั้งยังสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้หลังจาก 3 ปี

 

โดยผลตอบแทนดังกล่าวจะมาจากนโยบายการลงทุนในบริษัทเอกชนทั้งในไทยและอาเซียน จากหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งแบ่งออกเป็นกองย่อย ๆ ได้แก่ Real Estate และ Health Care 

 

รวมถึงบริษัทอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนาบล็อกเชนที่มีศักยภาพในการระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ทั้งในไทย หรือตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำที่พัฒนาแล้ว ซึ่งเป็นระบบเปิดเผยสาธารณะ เช่น สิงคโปร์ อังกฤษ ฮ่องกง ออสเตรเลีย และอเมริกา

โดยที่บริษัทเอกชนดังกล่าวยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ได้รับอนุมัติจาก Private Regulator จากตลาดหลักทรัพย์เติบโต (Growth Market) นานาชาติในประเทศชั้นนำที่พัฒนาแล้ว หรือลงทุนในนิติบุคคลเฉพาะกิจที่จัดตั้งขึ้นโดยผู้จัดการกองทุนของ Private Equity Fund หรือลงทุนในทรัพย์สิน Private Equity อื่นๆ เช่น หน่วยกองทุน Private Equity ที่ซื้อขายในตลาดรอง หรือลงทุนใน Private Equity Fund 

 

โดยการลงทุนส่วนหนึ่งจะเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจมีเป้าหมายเพื่อการเพิ่มมูลค่าเงินทุนพัฒนา Tokenomic และสร้างระบบนิเวศของนวัตกรรมบล็อกเชนเชื่อมเครือข่ายหมู่บ้าน ให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนและฟื้นเศรษฐกิจ ปลุกพลังหมู่บ้านให้เกิดขึ้นทั่วทั้งประเทศไทยต่อไป