นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวานนี้ (30 มี.ค.) เพื่อพบปะพูดคุยกับกลุ่มนักธุรกิจ และผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ จ.นราธิวาส และ อ.เบตง จ.ยะลา ตามคำเชิญของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค เพื่อให้ความเห็นแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำ ธุรกิจยั่งยืน ในการนำไปต่อยอดเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยครั้งนี้ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งที่สอง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา นายคีรี ได้เชิญกลุ่มนักธุรกิจ และผู้นำท้องถิ่นจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาหารือเพื่อต่อยอดจากครั้งที่แล้ว ในงาน สัมมนา "ศึกษาดูงานธุรกิจ กลุ่มบริษัทบีทีเอส" โดยได้รับเกียรติจาก นางสุภาวดี โชคสกุลนิมิต ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี เข้าร่วมหารือแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ ทั้งประเด็นการค้า-การลงทุนของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมด้านโลจิสติกส์ อาทิ การส่งออกผลไม้ในท้องถิ่น เนื้อโคแช่แข็ง เนื้อวัวดิลิเวอรี่ และธุรกิจห้องเย็น เป็นต้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพการส่งออกวัตถุดิบให้มีความสดใหม่ รองรับตลาดฮาลาล และตลาดโลก
“การส่งออกโคเนื้อถือเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ และสามารถพัฒนาต่อยอดได้ ถ้ามีการศึกษาการลงทุน ศึกษาตลาด รวมถึงความพร้อมของเกษตรกรในพื้นที่ มีการรวมกลุ่มในการทำธุรกิจ โดยส่วนตัวผมพร้อมที่จะเป็นคนกลางในการเชื่อมโยงกับนักลงทุน เพื่อเป็นโซ่ในการเชื่อมเพื่อต่อยอดธุรกิจได้” นายคีรีกล่าว
ด้าน นางสุภาวดี โชคสกุลนิมิต ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า เนื่องจากใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่มีทรัพยากรสำคัญ คือ ทะเล การทำประมงจึงถือเป็นอาชีพที่สำคัญ ที่จะเป็นส่วนยกระดับเศรษฐกิจอย่างมาก หากมีการลงทุนธุรกิจห้องเย็น คาดว่าจะสามารถต่อยอดธุรกิจอีกหลาย ๆ อย่างได้เป็นอย่างดี และนอกเหนือจากการต่อยอดทางธุรกิจในพื้นที่ ซึ่งเป็นหัวข้อหลักในการหารือนั้น ประเด็นด้านการศึกษา ก็เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ได้รับความสนใจอย่างมาก
ด้าน นายกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และผู้อำนวยการใหญ่สายธุรกิจ MATCH บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้นำคณะเข้าเยี่ยมชมการเรียนการสอนที่ Verso International School หนึ่งในธุรกิจของกลุ่มบีทีเอส ที่มีการเรียนการสอนโดยยึดมาตรฐานการศึกษาของอเมริกาเพื่อสร้างรากฐานหลักสูตร "สู่อนาคต" หรือ (Future-Ready) โดยให้ความสำคัญในด้านต่าง ๆ ได้แก่
การที่ Verso International School มีการเรียนการสอนที่หลากหลาย ทำให้กลุ่มนักธุรกิจมีแนวคิดที่อยากให้ในพื้นที่มีการพัฒนาด้านการศึกษาอย่างจริงจัง ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสที่จะสร้างแนวทางการพัฒนาศักยภาพของเยาวชน รวมถึงเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทยได้ในอนาคตต่อไป
การสัมมนาครั้งนี้นับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะเป็นแนวทางในการขยายฐานเศรษฐกิจสู่ท้องถิ่นได้ สามารถสร้างโอกาสที่หลากหลาย เพื่อมุ่งไปสู่การแก้ไขปัญหาในทุกๆ มิติให้มีความยั่งยืน