GITเล็งดันเชียงใหม่ขึ้นแท่นศูนย์กลางการผลิตเครื่องประดับเงินของโลก

25 มี.ค. 2565 | 10:04 น.

GITเล็งดันเชียงใหม่ขึ้นแท่นศูนย์กลางการผลิตเครื่องประดับเงินของโลก  ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญช่วยติวเข้มสร้างอัตลักษณ์ให้สินค้า ช่วยหาตลาดทั้งในและต่างประเทศ และช่วยเชื่อมโยงแหล่งผลิตเป็นที่ท่องเที่ยว

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเครื่องเงินภาคเหนือ เพื่อช่วยพัฒนาสินค้า

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

โดยใช้วัสดุภายในท้องถิ่นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และให้เน้นการออกแบบที่แสดงถึงภูมิปัญญาและอัตลักษณ์ของท้องถิ่น ที่จะช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับเครื่องประดับ และให้ช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งมีเป้าหมายผลักดันให้เชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียง เป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องประดับเงินที่สำคัญของโลก

 

 

GITเล็งดันเชียงใหม่ขึ้นแท่นศูนย์กลางการผลิตเครื่องประดับเงินของโลก

ทั้งนี้ นอกเหนือจากการช่วยพัฒนาศักยภาพให้กับผู้ประกอบการ ขอให้ช่วยทำการเชื่อมโยงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเข้ากับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจ และแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน สะท้อนอัตลักษณ์ของท้องถิ่นผ่านชิ้นงานเครื่องประดับ ซึ่งจะมีส่วนช่วยส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคได้อีกทางหนึ่ง

GITเล็งดันเชียงใหม่ขึ้นแท่นศูนย์กลางการผลิตเครื่องประดับเงินของโลก

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้รับรายงานจาก GIT ว่า มีกำหนดลงพื้นที่จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการให้แก่ช่างฝีมือ นักออกแบบ และผู้ประกอบการ ในการพัฒนาเครื่องประดับเงินภาคเหนือ (D-CAMP) ภายใต้โครงการพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และสินค้าชุมชน (มาเหนือ) ระหว่างวันที่ 28–30 มี.ค.2565 ณ โรงแรมดุสิต ดีทู จังหวัดเชียงใหม่

GITเล็งดันเชียงใหม่ขึ้นแท่นศูนย์กลางการผลิตเครื่องประดับเงินของโลก

นอกจากนี้ หลังจากอบรมแล้ว จะมีการคัดเลือกผู้ประกอบการ จำนวน 10 ราย เพื่อต่อยอดจัดทำคอลเลกชันเครื่องประดับต้นแบบ และจะนำไปจัดแสดงในงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับต่อไป

GITเล็งดันเชียงใหม่ขึ้นแท่นศูนย์กลางการผลิตเครื่องประดับเงินของโลก

 ปัจจุบันอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของไทย ก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียน ทั้งจากภาคการส่งออกและการค้าภายในประเทศเกือบ 9 แสนล้านบาท หรือประมาณ 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และปัจจุบันประเทศไทยถือได้ว่าเป็นประเทศที่ส่งออกเครื่องประดับเงินเป็นอันดับ 1 ของโลก