ครม.ปรับแก้กฎกระทรวงขอสัญชาติไทย ต่างด้าวต้องผ่านการทดสอบภาษาไทย

11 ม.ค. 2565 | 08:10 น.

มติ ครม.เคาะปรับแก้กฎกระทรวงขอสัญชาติไทย ต่างด้าวผ่านการทดสอบภาษาไทยจาก คกก.กลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติ หรือมีหนังสือรับรองจากสถานศึกษาที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ต่ำกว่าระดับประถมศึกษา

11 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ว่า ครม.อนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ แบบการขอสัญชาติไทย การแปลงสัญชาติเป็นไทย การสละสัญชาติไทย การกลับคืนสัญชาติไทย และค่าธรรมเนียม พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

โดยเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวง พ.ศ.2510 ออกตามความในพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบันและทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีสาระสำคัญดังนี้

1.กำหนดสถานที่ยื่นคำขอมีสัญชาติไทย การขอแปลงสัญชาติเป็นไทย การขอกลับคืนสัญชาติไทย และการขอสละสัญชาติไทย ดังนี้

  • ผู้มีชื่อตามทะเบียนราษฎรในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคำขอที่กรมการปกครอง
  • ผู้มีชื่ออยู่ในจังหวัดอื่นนอกเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคำขอที่จังหวัด
  • ผู้มีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศ ให้ยื่นคำขอที่สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่

2.กำหนดเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นคำขอ ดังนี้

  • หญิงต่างด้าวขอมีสัญชาติไทยตามสามี ให้ยื่นคำตามแบบ สช.1 พร้อมหลักฐาน เช่น บัตรประจำตัว ใบสำคัญการสมรส รูปถ่าย
  • คนต่างด้าวขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ให้ยื่นคำขอตามแบบ สช.2 พร้อมหลักฐาน เช่น บัตรประจำตัว รูปถ่าย หลักฐานการประกอบอาชีพ หลักฐานการศึกษา
  • ขอแปลงสัญชาติเป็นไทยให้แก่คนต่างด้าวที่เป็นคนไร้ความสามารถ ผู้เยาว์ หรือเป็นบุตรบุญธรรมของคนสัญชาติไทย ให้ยื่นคำขอตามแบบ สช.3 พร้อมหลักฐาน เช่น สำเนาคำสั่งของศาลแต่งตั้งให้เป็นผู้อนุบาล หลักฐานของคนไร้ความสามารถ

3.กำหนดระยะเวลาในการพิจารณาและตรวจสอบคุณสมบัติ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน กรณีที่ยื่นต่างประเทศ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถขอขยายระยะเวลาได้อีกครั้งละไม่เกิน 30 วัน แต่ไม่เกิน 2 ครั้ง และต้องมีเหตุผลจำเป็นเท่านั้น  จากเดิมที่ไม่กำหนดระยะเวลาการพิจารณาและการตรวจสอบคุณสมบัติ

4.กำหนดให้คนต่างด้าวที่ขอแปลงสัญชาติเป็นไทย จะต้องมีความรู้ภาษาไทย ต้องพูดและฟังภาษาไทยเข้าใจได้ โดยต้องผ่านการทดสอบจากคณะอนุกรรมการที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติ หรือมีหนังสือรับรองจากสถานศึกษาที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ แสดงว่าเป็นผู้การศึกษาเล่าเรียนสถานศึกษาในประเทศไทย ไม่ต่ำกว่าระดับประถมศึกษา จากเดิมที่กำหนดให้จะต้องมีความรู้ภาษาไทย พูดภาษาไทย และฟังไทยเข้าใจได้เท่านั้น

5.กำหนดค่าธรรมเนียม อาทิ 

  • คำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ครั้งละ 10,000 บาท  (เดิม 5,000 บาท)
  • คำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย สำหรับบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของผู้แปลงสัญชาติเป็นคนไทย ครั้งละ 5,000 บาท (เดิม 2,500 บาท)
  • หนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติเป็นไทย ฉบับละ 1,000 บาท (เดิม 500 บาท)
  • คำขอกลับคืนสัญชาติไทย ครั้งละ 2,000 บาท (เดิม 1,000 บาท)