"ส.อ.ท."ชี้อุตสาหกรรมเหล็กจะเป็นพระเอกต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

28 ธ.ค. 2564 | 22:19 น.

ส.อ.ท.ชี้อุตสาหกรรมเหล็กจะเป็นพระเอกต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ระบุมีความจำเป็นต่อการผลิตในภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เผยบางอุตสาหกรรมยังต้องใช้เวลาฟื้นตัวโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับท่องเที่ยว

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประธานสายงานส่งเสริมสนับสนุนอุตสาหกรรม รับผิดชอบดูแล 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 11 คลัสเตอร์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า อุตสาหกรรมเหล็กเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ 
ทั้งนี้ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการผลิตในภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่อง อาทิ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ สะพาน ทางหลวง ก่อสร้าง พลังงาน บรรจุภัณฑ์ และเสาส่งสัญญาณสาธารณูปโภค เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ยังมีบางอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัว โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว เป็นสำคัญ อาทิ อุตสาหกรรมหัตถกรรมสร้างสรรค์ ที่ยังคงฟื้นตัวช้าเนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า อาทิ ดอกไม้ประดิษฐ์ ของชำร่วย เครื่องประดับ ของที่ระลึก 
 

และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับช่วงเทศกาลปีใหม่และของใช้ในเทศกาลและงานรื่นเริง เช่น ประทีปโคมไฟ เทียนไข รูปแกะสลัก ตุ๊กตาเซรามิก เป็นต้น อีกทั้ง สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 (Covid-19) ที่ไม่แน่นอนยังเป็นปัจจัยกดดันกำลังซื้อในประเทศ ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ อาจมีจำนวนน้อยกว่าก่อนการระบาดของโควิด-19 
นอกจากนี้ ผู้ประกอบโดยเฉพาะเอสเอ็มอี (SMEs) ต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐ อาทิ การหาตลาดเพื่อจำหน่ายสินค้า การขายสินค้าบน Digital Platform การออกแบบพัฒนาสินค้า การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิต รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เป็นต้น

เกรียงไกร เธียรนุกุล
รวมถึง กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร สปา ธุรกิจบันเทิงและสันทนาการ การขนส่งผู้โดยสาร ออฟฟิศให้เช่า ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยทั้งการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว กิจกรรมทางเศรษฐ   กิจภายในประเทศ ความกังวลต่อ การแพร่ระบาดของโควิด-19 และกำลังซื้อภายในประเทศของผู้บริโภค เป็นต้น
 

นายเกรียงไกร กล่าวต่อไปอีกว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2565 สภาพัฒน์ คาดว่าจะขยายตัว 3.5-4.5% ซึ่งฟื้นตัวชัดเจนต่อเนื่องจากปี 2564 จากฐานที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำ โดยมีแรงสนับสนุนจากการปรับตัวดีขึ้นของ อุปสงค์ภายในประเทศภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายและการกระจายวัคซีนครอบคลุมมากขึ้น 
ประกอบกับการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการขยายตัวของภาคการส่งออกและการผลิตอุตสาหกรรม ตามการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังมีแรงขับเคลื่อนจากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐและพระราชกำหนดเงินกู้ฯ เพิ่มเติม ถึงแม้ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ท่ามกลางการกลายพันธุ์ของไวรัส และความเสี่ยงจากปัญหาของห่วงโซ่การผลิตและโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ รวมทั้ง ความผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลกก็ตาม 
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มอุตสาหกรรมไทยปี 2565 มีทิศทางที่ฟื้นตัวขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กำลังปรับตัวดีขึ้น ซึ่งมีหลากหลายอุตสาหกรรมที่กำลังอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น