เงินกู้ 2 หมื่นล้านพยุงกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเงินเข้า เม.ย. 65

30 พ.ย. 2564 | 09:26 น.

สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เผยความคืบหน้าการกู้เงิน 20,000 ล้านบาท คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการดำเนินการให้เป็นไปตามกระทรวงการคลังกำหนด มั่นใจเป็นไปตามขั้นตอน คาดได้รับเงินภายในเดือนเมษายน 2565

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า การกู้เงินจากสถาบันการเงินจำนวน 20,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง คาดว่าจะได้รับเงินไม่เกินเดือนเมษายน 2565 โดยการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ได้เห็นชอบให้กองทุนน้ำมันฯ กู้เงินจากสถาบันการเงิน
ทั้งนี้ กองทุนน้ำมันฯ เป็นกลไกและเครื่องมือที่สำคัญในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงของประเทศในช่วงภาวะวิกฤตไม่ให้สูงเกินไปจนเกิดผลกระทบต่อค่าครองชีพประชาชน และการเติบโตด้านเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้กรอบการดำเนินงานของแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2563-2567 ซึ่งกำหนดไว้ 3 แนวทางสำคัญ ได้แก่ 

1.กรณีสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมีการปรับขึ้นเกินระดับที่มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งหมายถึงกรณีที่ราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกในประเทศสูงกว่า 30 บาท/ลิตร และราคาขายปลีก LPG เกิน 363 บาท/ถัง (15 กก.) 
2.กรณีสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรง ได้แก่ ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นมากกว่า 5 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลใน 1 สัปดาห์ หรือ ราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกปรับขึ้นมากกว่า 1 บาท/ลิตร ใน 1 สัปดาห์ และราคา LPG ตลาดโลกเปลี่ยนแปลงใน 2 สัปดาห์ เฉลี่ยมากกว่า 35 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน หรือ ราคา LPG ตลาดโลกเปลี่ยนแปลงใน 2 สัปดาห์ รวมกันมากกว่า 1 บาท/กก.

วิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
และ 3.กรณีสถานการณ์น้ำมันเชื้อเพลิงขาดแคลนและไม่เพียงพอต่อการใช้ในประเทศ ที่อาจเกิดผลกระทบต่อการดำรงชีพของประชาชน โดยการดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว มุ่งเน้นการอุดหนุนและชดเชยในระยะสั้นชั่วคราวอย่างมีระเบียบวินัยทางการเงินการคลังเป็นสำคัญ

อย่างไรก็ดี การดำเนินงานของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผ่านมา ได้เข้าไปมีส่วนช่วยในการแก้ไขวิกฤตผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศในช่วงที่สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกมีความผันผวน ซึ่งในส่วนของสถานการณ์ราคา LPG ได้เข้าไปอุดหนุนเพื่อตรึงราคา LPG ตามนโยบายรัฐบาลเพื่อลดผลกระทบค่าครองชีพประชาชนในช่วงสถานการณ์ดังกล่าวตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มีนาคม 2563 ไปแล้ว 13,251 ล้านบาท 
ขณะที่ในช่วงสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกผันผวน กองทุนน้ำมันฯ ได้เข้าไปตรึงราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) และคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ตั้งแต่เดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2564 โดยมีการชดเชยไปแล้วกว่า 7,211 ล้านบาท 
ซึ่งส่งผลให้ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมัน ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 มีจำนวน 1,426 ล้านบาท โดยมีวงเงินคงเหลือในบัญชีน้ำมันสุทธิ 22,400 ล้านบาท ส่วนบัญชี LPG มีวงเงินติดลบอยู่ที่ 20,974 ล้านบาท โดยล่าสุดเพื่อให้กองทุนน้ำมัน ฯ ยังคงมีสภาพคล่องในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงต่อเนื่อง จึงต้องดำเนินการกู้เงินดังกล่าว
"ในช่วงรอยต่อ 4 เดือนในการชดเชยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ตามมติ กบง.และ กบน. ขอยืนยันว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ยังคงมีสภาพคล่องในการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างดีที่สุด"