โครงการช่วย SMEs เปิดลงทะเบียนเฟส 2 รัฐอุดหนุน 3,000 บาท/หัว นาน 2 เดือน เช็กเลย

23 พ.ย. 2564 | 22:05 น.

โครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs เปิดลงทะเบียนระยะที่ 2 รัฐอุดหนุน 3,000 บาท ต่อหัวลูกจ้างต่อเดือน นาน 2 เดือน รับเงินรอบแรก 30 ธ.ค. 64 เช็กเงื่อนไข

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบเปิดลงทะเบียนโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs รอบที่ 2 ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เพื่อให้นายจ้างภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม ( ฐานทะเบียนข้อมูลประกันสังคม มาตรา 33 สถานะ Active) ที่มีลูกจ้างรวมทุกสาขาไม่เกิน 200 คน ณ วันที่ 16 ต.ค. 64 สามารถลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลในอัตรา 3,000 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน คือ เดือนธ.ค. 64  และเดือนม.ค. 65 โดยมีเงื่อนไขการจ่ายเงินอุดหนุนเช่นเดียวกับนายจ้างที่ลงทะเบียนรอบแรก ทั้งย้ำว่าเงินอุดหนุนที่รัฐจ่ายให้นายจ้าง จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้วแต่กรณี ซึ่งหากนายจ้างส่งเอกสารครบถ้วนภายในวันที่ 23 พ.ย. – 20 ธ.ค. 64 จะได้รับเงินอุดหนุนวันที่ 30 ธ.ค. 64   

 

ทั้งนี้หลังจากเปิดรับลงทะเบียนร่วมโครงการเป็นระยะเวลา 1 เดือน (20 ต.ค.-20 พ.ย.64) ได้รับความสนใจโดยมีสถานประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการถึง 223,838 ราย คิดเป็นเม็ดเงินอุดหนุนตลอดโครงการ จำนวน 27,613,368,000 บาท แยกเป็น

 

  • กิจการขนาดเล็ก (ลูกจ้างไม่เกิน 50 คน) จำนวน 210,631 แห่ง มีลูกจ้างสัญชาติไทย จำนวน 1,839,868 คน
  • กิจการขนาดกลาง (ลูกจ้าง 50 - 200 คน) จำนวน 13,207 แห่ง มีลูกจ้างสัญชาติไทย จำนวน 1,228,284 คน

 

อย่างไรก็ดีหากเทียบจากเป้าหมาย ยังมีสถานประกอบการ 170,865 ราย ที่จ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทย 964,796 คน (ข้อมูลจากสำนักงานประกันสังคม ณ วันที่ 16 ต.ค. 64) ยังไม่ได้ลงทะเบียนร่วมโครงการ ครม.จึงเห็นชอบให้เปิดลงทะเบียนระยะที่ 2 เพื่อให้ SMEs ได้รับสิทธิทั่วถึง 

 


 

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า สำหรับนายจ้าง/สถานประกอบการที่ต้องการร่วมโครงการฯ สามารถลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ ได้ที่เว็บไซต์ ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. – 20 ธ.ค. 64 ในกรณีที่นายจ้างไม่สามารถลงทะเบียนร่วมโครงการฯผ่านระบบด้วยตนเอง สามารถนำเอกสารซึ่งประกอบด้วย หนังสือมอบอำนาจติดอากรแสตมป์ 30 บาท สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร (กรณีใช้บัญชีกระแสรายวัน ให้ใช้สมุดหน้าเช็คที่มีชื่อนายจ้างและเลขบัญชี) และสำเนาหนังสือรับรองการจะทะเบียนนิติบุคคล หรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (นายจ้างบุคคลธรรมดา) โดยลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ ติดต่อที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ หรือหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมให้ติดต่อได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694
 


 

“นอกจากการเปิดลงทะเบียนฯ รอบที่ 2 แล้ว ครม.ยังเห็นชอบให้นายจ้างที่ลงทะเบียนร่วมโครงการในระยะที่ 1 (ระหว่างวันที่ 20 ต.ค. 64 – 20 พ.ย. 64) และนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม ภายในวันที่ 15 ธ.ค. 64 ได้รับเงินอุดหนุน ครบ 3 งวดด้วย ซึ่งช่วยแก้ปัญหาให้นายจ้างที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯหลังวันที่ 15 พ.ย. 64 และนำส่งข้อมูลเงินสมทบงวดเดือนต.ค. 64 หลังวันที่ 15 พ.ย. 64 หรือไม่ได้นำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม รวมทั้งนายจ้างที่ลงทะเบียนก่อนวันที่ 15 พ.ย. 64 แต่อยู่ในระหว่างดำเนินการขอรหัสผู้ใช้งานระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม ซึ่งทำให้นำส่งข้อมูลเงินสมทบงวดเดือนต.ค. 64 ผ่านระบบ e-Service ไม่ทันภายในวันที่ 15 พ.ย. 64 สามารถรับเงินอุดหนุนในเดือนแรกได้ (พ.ย. 64)”  อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

 

หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการมีดังนี้ 

 

1. คุณสมบัติ

 

เป็นนายจ้างภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม ตามฐานทะเบียนข้อมูลประกันสังคมมาตรา 33 มีสถานะ Active ที่มีลูกจ้างทุกสาขารวมกันไม่เกิน 200 คน ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2564 เพื่อตรวจสอบขนาดกิจการที่มีสถานะเป็น SMEs


2.เงื่อนไข

 

(1) รัฐจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่นายจ้างตามจำนวนลูกจ้างสัญชาติไทยจำนวนไม่เกิน 200 คน ที่อยู่ในฐานทะเบียนข้อมูลประกันสังคม มาตรา 33 มีสถานะ Active ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564

 

(2) รัฐจ่ายเงินอุดหนุนในอัตรา 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน (ธันวาคม 2564 ถึง มกราคม 2565)

 

(3) รัฐจ่ายเงินอุดหนุนตามจำนวนการจ้างจริงของทุกเดือน โดยตรวจสอบจากฐานทะเบียนข้อมูลประกันสังคม มาตรา 33 มีสถานะ Active ทุกวันที่ 16 ของเดือน

 

(4) ระหว่างเข้าร่วมโครงการเดือนที่ 2 และ 3 (ธันวาคม 2564 ถึงมกราคม 2565) นายจ้างจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังนี้

 

4.1 นายจ้างต้องรักษาระดับการจ้างงาน ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 หากนายจ้างไม่สามารถรักษาระดับการจ้างงานจะไม่ได้รับเงินอุดหนุนในเดือนนั้น ๆ

4.2 ในกรณีที่นายจ้างมีจำนวนการจ้างงานเพิ่มขึ้นโดยเปรียบเทียบจากข้อมูล ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 นายจ้างจะได้รับเงินอุดหนุนตามจำนวนการจ้างงานจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 5 ของจำนวนลูกจ้างสัญชาติไทยทั้งหมดที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการ ในอัตรา 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน ระยะเวลา 2 เดือน (ธันวาคม 2564 ถึง มกราคม 2565)

 

(5) นายจ้างจะต้องแจ้งชื่อและหมายเลขบัญชีธนาคารของนายจ้าง (กรณีนายจ้างเป็นนิติบุคคลต้องใช้บัญชีธนาคารซึ่งเป็นชื่อของนิติบุคคลนั้น /นายจ้างบุคคลธรรมดาใช้ชื่อบัญชีของนายจ้าง)

 

(6) รัฐจ่ายเงินอุดหนุนให้กับนายจ้าง โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากตามที่นายจ้างแจ้งทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน กรณีการรับเงินอุดหนุนผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สำหรับธนาคารอื่นนายจ้างจะได้รับเงินอุดหนุนหลังจากวันดังกล่าว โดยจะถูกหักค่าธรรมเนียมการโอนระหว่างธนาคารจากเงินอุดหนุน

 

(7) นายจ้างที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน – 20 ธันวาคม 64 ก่อน แล้วจึงสมัครใช้บริการระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม เพื่อยื่นแบบรายการแสดงข้อมูลการส่งเงินสมทบ สปส. 1-10 ในระบบ e-Sevice ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป จึงจะได้รับเงินอุดหนุนจากโครงการนี้

 

(8) การขอรับเงินอุดหนุนของนายจ้างจะต้องไม่เป็นเหตุให้นายจ้างชะลอการจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง

 

(9) นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของแต่ละจังหวัดตามประกาศของคณะกรรมการค่าจ้าง