4 สมาคม บุกพบ "เฉลิมชัย" ถามคืบหน้าดื่มนมโรงเรียน 365 วัน

12 ต.ค. 2564 | 14:42 น.

4 สมาคม นำโดย ชุมนุมสหกรณ์โคนมฯ เกี่ยวก้อย 3 สมาคมนม เข้าพบ รัฐมนตรีเกษตรฯ ถามคืบหน้าดื่มนมโรงเรียน 365 วัน จะช่วยให้เกษตรกรขายน้ำนมดิบได้มากขึ้น ทำให้มีเงินสะพัดในระบบอุตสาหกรรมกว่า 5.8 หมื่นล้านบาท “เฉลิมชัย” ระบุส่งเข้า ครม.แล้ว รอลุ้นไฟเขียว มติเห็นชอบ

นายนัยฤทธิ์  จำเล  ประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”  วันนี้ ชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด พร้อมกับ 3 สมาคม  ได้แก่ สมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ สมาคมนม ยู.เอช.ที  และ สมาคมกลุ่มเกษตรกรผู้รวบรวมนํ้านมดิบ ได้เข้าหารือ คุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมให้เด็กดื่มนม 365 วัน ตาม โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณเพิ่มเติมอีก 5,700 ล้านบาท จากเดิมกรอบวงเงิน 1.4 หมื่นล้านบาท

 

เข้าพบ "เฉลิมชัย ศรีอ่อน" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

“วันนี้เข้าไปพบ ก็ขอบคุณรัฐมนตรีเกษตรฯ ที่ได้นำเรื่องส่งเข้า ครม.แล้ว ทางรัฐมนตรีก็ได้แจ้งว่าได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ ให้ทำเรื่องไปดำเนินการทั้งสิ้นแล้ว ตอนนี้ก็ต้องรอลุ้น ครม.ว่าจะเห็นชอบเมื่อไร  ทางรัฐมนตรีก็ไม่ได้ขัดข้อง แต่หากมีคนใดคนหนึ่งเสียผลประโยชน์เรื่องดังกล่าวนี้จะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าได้ผลประโยชน์ด้วยกัน พร้อมที่จะทำงานให้ แล้วอีกอย่างเด็กจะได้ดื่มนม เกษตรกรก็ได้ขายนม ก็เดินมาถูกทางแล้ว ก็พร้อมที่จะสนับสนุน พอฟังอย่างนี้ก็สบายใจ ขอให้เกษตรกรโคนม รอฟังข่าวดีว่า ครม.จะมีมติ วันไหน”

 

อนึ่ง  โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ได้เริ่มตันตั้งแต่ปี 2535 มีวัตถุประสงค์ประการ คือส่งเสริมสุขภาพเด็กมักเรียนและแก้ไขปัญหานมดิบสันของเกษตรกรผู้เลี้ยงไกนมไทย ที่พรรกประชาธิปัตย์ มีท่านชวน หลีกภัย อดีตผู้นำรัฐบาลไม่สมัยนั้นสนับสนุนซึ่งผลลัพธ์ของโครงการทำให้เด็กไทยมีสุขภาพแข็งแรงเดิบโตตามวัยจากคุณภาพน้ำนมโคที่ได้มาตรฐานและเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทยมีตลาดที่ขายนมไม่ล้นตลาดสร้างเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจฐานราก

 

เป็นโครงการที่สร้างงานสร้างอาชีพต่อชาวบ้านเป็นอย่างมาก ซึ่งทุกรัฐบาถที่ผ่านมาก็ให้การสนับสนุนงบประมาณ เพราะให้ความสำคัญกับเด็กอันเป็นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศในอนากตและเกษตรกรผู้เลี้ยงโดนมไทยได้มีที่ขายนม ทำให้มีอาชีพยั่งยืน สร้างเสริมรานได้กับอาชีพที่เป็น Supply Chain อื่นๆ อาทิ ฟางข้าว รำข้าว มันเส้น ข้าวโพด กากปาล์ม หญ้าและพืชอาหารสัตว์อื่นๆอีก ทำให้เกิดทุนหมุนเวียนในเศรษฐกิจฐานรากประมาณกว่า 2.8 หมื่นล้าน

 

ปัจจุบันรัฐบาลได้มีการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาชาติด้านเศรษฐกิจฐานรากและลดวามเหลื่อมล้ำ สร้างความมั่นคงด้านอาหาร สุขภาพของคนไทย เสริมเศรษฐกิจฐานรากที่มั่งคั่ง ซึ่งรัฐบาลได้ใส่ใจให้ความสำคัญของเด็กไทยประมาณ 6.8 ล้านคน ให้มีสุขภาพที่เข็งแรงเป็นลำดับต้น หากรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณให้โครงการอาหารเสริม(นม)โรงเรียน ให้เด็กได้ดื่มนมเพิ่มเสาร์อาทิตย์อีก 105 วัน รวมเป็น 365 วัน

 

พูดคุยหารือ

 

ถือว่าเป็นการให้เด็กได้มีความมั่นคงด้านอาหารที่มีโภชนาการที่ดีที่สุดต่อร่างกายเด็กที่ โตทุกวันตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ที่ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมมีตลาดจำหน่ายนมสู้กับการค้าเสรีได้ สร้างงานสร้างอาชีพในระบบอุตสาหกรรมโคนมทั้งพืชอาหารสัตว์ โรงงานอาหารสัตว์ การใช้สาธารณูปโกคขั้นพื้นฐานของรัฐ มูลค่าหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจฐานรากกว่า 58,000 ล้านบาท รวมถึงเป็นการกระตุ้นการบริโภคนมที่มีคุณภาพมาตรฐาน ที่มาจากคนไทยเพื่อสุขภาพคนไทยเพื่อเศรษฐกิจไทยให้เกิดความมั่นคงแข็งแรง

 

ขณะที่ แหล่งข่าวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด
เรื่อง ขออนุมัติโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนครบทุกวันและ โครงการอาหารนมเพื่อนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1 - ม.3) ครบทุกวัน ถึง เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2564

 

หนังสือด่วนที่่สุด "นมโรงเรียน"