นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดใจผ่าน “ฐานเศรษฐกิจ” แบบถามตรง ๆ ตอบชัด ๆ ถึงวิกฤติที่ลุกลามไปหลายคลัสเตอร์ในขณะนี้และเป็นห่วงว่าภายใน 2 เดือนนับจากนี้ หากรับมือไม่อยู่ประชาชนจะเกิดความไม่เชื่อมั่นต่อรัฐบาลมากขึ้น
คิดว่าหมดเวลาของรัฐบาลชุดปัจจุบันในการบริหารประเทศหรือยัง :
ถ้าการระบาดรอบนี้ยังบริหารจัดการไม่ได้ภายใน 2 เดือนนี้ วิกฤติศรัทธาจะมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่รัฐบาลต้องพิจารณาค่ะ
รัฐบาลควรทำสิ่งใดก่อนโดยด่วน :
สิ่งที่รัฐบาลจะต้องรีบทำก่อนในเบื้องต้นมี 3 สิ่งแรกคือ 1.รบกับโควิด-19 โดยทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดการแพร่ระบาด จำกัดวงของการแพร่ระบาดลงเรื่อย ๆ จำกัดวงล้อมฆ่าเชื้อไวรัสเป็นโซน ๆ ทั้งการระดมฉีดวัคซีน
การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้น ให้ผู้ป่วยโควิดที่รักษาหายแล้วเป็นอาสาสมัครมาช่วยบุคลากรทางการแพทย์ เพราะบุคลากรทางการแพทย์ไม่พอ ซึ่งกลุ่มที่รักษาหายแล้ว ยังมีภูมิต้านทานและเข้าใจวิธีการดูแลผู้ป่วยรวมถึงใช้เทคโนโลยีมาช่วยการรักษา ตั้งแต่ Telemedicine, AI อ่านฟิล์ม X-Ray เป็นต้น
2.รบกับปัญหาเศรษฐกิจ ต้องตั้งทีมเศรษฐกิจ เชิญภาคเอกชนที่มีความรู้ระดับมหภาคมาวางแผนระดมสมอง ระดมกำลัง ระดมทรัพยากร กู้วิกฤติประเทศ และ 3.สร้างความเชื่อมั่นของประเทศไทยให้กลับมา ทั้งกับคนในประเทศและเวทีโลก
รัฐบาลจัดสรรวัคซีนออกมาล่าช้า คิดว่าต้นตอปัญหามาจากอะไรบ้าง :
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดยส่วนตัวคิดว่า เกิดจากการวางแผนผิดพลาด ไปยึดติดกับระบบราชการที่มีกฎระเบียบมากจนไม่รู้ว่าการจัดการกับวิกฤติระดับโลก ต้องใช้การตัดสินใจที่รวดเร็วและเด็ดขาด
ภายในไตรมาส 3-4 ถ้าวัคซีนยังฉีดไม่ครอบคลุมจะเกิดอะไรขึ้น :
จะเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เห็นชัดเจน 3 ส่วน ที่กระทบแน่ ๆ คือ 1.GDP ติดลบ เพราะจะกระทบถึงภาคการส่งออกที่เป็นเครื่องยนต์เครื่องเดียวที่เหลืออยู่ ในกรณีที่คนงานในโรงงานที่ผลิตเพื่อการส่งออกไม่ได้รับวัคซีนและติดเชื้อจนต้องหยุดการผลิต 2.ท่องเที่ยวไม่ฟื้น กระทบถึงผู้ประกอบการและคนทำงานหลายล้านคน และ 3.ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SMEs จะเข้าสู่ขั้นโคม่า
อย่างไรก็ตามการได้รับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงต้องดำเนินการให้รวดเร็วที่สุด เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้นแล้ว และมีคำสั่งซื้อ(order) เข้ามามาก ถ้าคนงานติดโควิดจนกระทบสายการผลิตจะเป็นการสูญเสียโอกาสในการนำเงินเข้าประเทศอย่างน่าเสียดาย ในแง่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA มีมาตรการดูแลที่ค่อนข้างจะเข้มงวด ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ระวังเรื่องการติดเชื้อกันมาก
ในแง่เศรษฐกิจยังมองเห็นโอกาสด้านใดบ้าง :
ในภาคอุตสาหกรรม ประเทศไทยยังเป็นเป้าหมายการลงทุนของต่างชาติในด้านยานยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มอิเล็ก ทรอนิกส์ และในภาคโลจิสติกส์ ไทยยังเป็นเป้าหมายของการลงทุนระดับภูมิภาค
“ที่จริงประเทศไทยยังมีศักยภาพและยังดึงดูดการลงทุนของต่างชาติได้ แต่จะเติบโตได้มากกว่านี้หรือจะสร้างเศรษฐกิจใหม่ ๆ ได้มากแค่ไหน ก็ต้องดูการทำงานของรัฐบาลว่าจะมีความสามารถมากแค่ไหน”
คิดว่าไทยจะเดินไปถึงจุดประชาชนติดเชื้อ-ล้มตายจนรับมือไม่ไหวหรือไม่ :
คงไม่ขนาดนั้น ตอนนี้ประชาชนก็ระวังตัวกันมาก
อยากวิงวอนขออะไรจากรัฐบาล :
รัฐบาลต้องฟังเสียงประชาชน จัดทีมบริหารงานที่มีความสามารถในการจัดการกับวิกฤติในทุกๆ ด้าน
ประเมินในปีนี้จะฉีดวัคซีนได้ครอบคลุม 50% ของประชากรได้หรือไม่ :
ไม่คิดว่าจะทำได้ถึง 50% ตอนนี้ภาคประชาชนคงต้องช่วยเหลือตัวเอง รักษาตัวเองให้รอดพ้นจากการบริหารงานที่ผิดพลาดและล่าช้าของภาครัฐ
“ยอมรับว่ามันวิกฤติจริง ๆ คนล้มตายความเสียหายทางเศรษฐกิจที่จะตามมามากขึ้นและต้องขอใช้พื้นที่นี้ฝากขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่บริจาคอาหารปัจจัย สิ่งของ และอุปกรณ์ที่จำเป็นที่ใช้ในโรงพยาบาลสนามให้กับบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนามสมุทรปราการ 5 (WHA) ด้วย ในท่ามกลางความมืดยังมีแสงสว่างจากธารนํ้าใจของทุก ๆ ท่านค่ะ”
หน้า 9 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,701 วันที่ 1 - 4 สิงหาคม พ.ศ. 2564