“สุริยะ”ชี้ “การเมือง” ไม่น่าห่วงเท่า “โควิด-19”

26 ต.ค. 2563 | 09:05 น.

“สุริยะ”ตอบชัดประเด็นปัญหา”การเมือง” ในประเทศไม่น่าห่วงเท่า “โควิด-19” ชี้นักลงทุนมีความคุ้นชินกับสถานการณ์

นายสุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงประเด็นเรื่องสถานการณ์การเมืองต่อผลกระทบทางด้านการลงทุน ว่า  สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยไม่ใช่เพิ่งเคยเกิดขึ้น  แต่ก็เกิดขึ้นมาโดยตลอด  เพราะฉะนั้นนักลงทุนโดยเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่นจะมีความคุ้นชินกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเชื่อว่าอาจจะส่งผลต่อการลงทุนให้ถดถอยในระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น  แต่ประเด็นที่สำคัญและน่าเป็นห่วงมากกว่าคือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (Covid-19) ซึ่งส่งผลทำให้ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบ  และเกิดการชะลอตัวลงไปบ้าง  ดังนั้น  เชื่อว่าประเด็นเรื่องการเมืองไม่น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญมากนักต่อการลงทุน

                ส่วนประเด็นเรื่องควรจะมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับนักลงทุนเพิ่มขึ้นหรือไม่จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน  หรือบีโอไอ (BOI) เพื่อดึงดูดการลงทุน  เท่าที่ได้หารือกับนักลงทุนจำนวนมาก  พบว่าส่วนใหญ่มีความพึงพอใจกับสิทธิประโยชน์ที่ได้รับในปัจจุบัน  เพียงแต่ว่าหากสถานการณ์เรื่องโควิด-19 หมดไป  ทุกอย่างก็น่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น

“สุริยะ”ชี้ “การเมือง” ไม่น่าห่วงเท่า “โควิด-19”

                “ที่ผ่านมาสมัยที่นายสมคิด  จาตุศรีพิทักษ์  ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีทางด้านเศรษฐกิจ ได้มีการดำเนินการชักชวนนักลงทุนจากประเทศต่างๆ  ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก  โดยจะเห็นได้จากตัวเลขของการขอส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  แต่เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน  ส่งผลให้การลงทุนเกิดการชะลอตัว” 

ทั้งนี้ เชื่อว่าหลังจากที่สถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลาย นักลงทุนสามารถเดินทางเข้า-ออกประเทศได้อย่างสะดวก  น่าจะได้เห็นการตอกเสาเข็มในการสร้างโรงงาน  โดยเฉพาะในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี (EEC) ซึ่งรัฐบาลได้มีการเตรียมการเรื่องโครงสร้างพื้นฐานต่างๆให้พร้อม  ทั้งระบบการขนส่ง  ท่าเรือ  และสถานที่ตั้งซึ่งเป็นจุดภูมิศาสตร์ที่สามารถเชื่อมโยงประเทศต่างๆในภูมิภาค เช่น CLMV เป็นต้น  ดังนั้น การลงทุนในอีอีซีก็น่าจะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมแน่นอน

                ส่วนภาวการณ์ลงทุนปี 64 จะเป็นไปในทิศทางใดนั้น  ปัจจัยสำคัญคือหากมีวัคซีนในช่วงกลางปีหน้า  การลงทุนก็น่าจะกลับมาตั้งแต่ปลายปีหน้า  แต่การที่รัฐบาลประเมินแล้วว่าภาคเศรษฐกิจพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วตั้งแต่ไตรมาส 2/63 ซึ่งตัวเลขการชะลอตัวมีอัตราที่ลดลง และการส่งออกเริ่มดีขึ้น  ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีขึ้น