"อนุทิน" ลั่น "สาธารณสุข" คุมโควิดได้ พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

28 ก.ย. 2563 | 04:49 น.

"อนุทิน" ยัน "สาธารณสุข" คุมอยู่ พร้อมชู "ไทยแลนด์โมเดล" เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 กันยายน 2563) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมต่อมาตรการเปิดประเทศในระยะต่างๆ ขอให้มั่นใจว่า หากมีเหตุการณ์ติดเชื้อทางสาธารณสุขมีความพร้อมทั้งการควบคุมโรคและรักษาพยาบาล เราจึงต้องรีบผ่อนคลายมาตรการให้เป็นปกติเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด โดยต้องเฝ้าระวังและตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมาในแต่ละระยะ เหมือนช่วงที่เราล็อกดาวน์ก็มีระยะที่ 1 ระยะที่ 2 และระยะที่ 3

 

ส่วนกรณีที่ว่าจะมีการลดเวลาในการกักตัวจาก 14 วันเป็น 7 วันนั้น นายอนุทิน ระบุว่า ในแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ประเทศที่มีการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อได้ดี ไม่มีการแพร่ระบาดในประเทศนั้นเป็นระยะเวลาพอสมควร เราไม่จำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการที่เข้มข้นที่สุด เพราะจะเป็นการชะลอการทำมาหากินการเดินทางสัญจรไปมาเพื่อประกอบธุรกิจ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"หมอธีระ" เตือน เปิดประเทศ โควิดรอบ 2 มาแน่! 

ลุ้น ศบค.เคาะแนวทางเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบพิเศษ 28 ก.ย.

จับตา "ศบค."เคาะต่อ พรก.ฉุกเฉิน ถึงสิ้นเดือนตุลาคม 63 

 

ยืนยันว่า เราดำเนินการทุกอย่างด้วยความระมัดระวังเพื่อความมั่นใจ ซึ่งในที่ประชุมคงจะตัวอย่างประเทศที่มีความปลอดภัยมากอาจจะออกมาในรูปแบบของการจับคู่ประเทศท่องเที่ยว หรือ ทราเวล บับเบิ้ล

นายอนุทิน กล่าวถึงแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ หรือ Special tourist Visa (STV) ว่า ยืนยันไม่ได้เป็นการสร้างเงื่อนไข แต่จะมีการตั้งกฎเกณฑ์ ส่วนการล็อกดาวน์จะตั้งแนวทางเป็นลำดับ และจะมีการผ่อนคลายไปเรื่อยๆ โดยหลักเกณฑ์แต่ละประเทศจะไม่เหมือนกัน เพราะจะดูตามตัวเลขการติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศนั้นๆ ซึ่งจะไม่เข้มงวดทั้งหมด เช่นอาจจะปรับลดระยะเวลาการกักตัว สำหรับประเทศที่มีการติดเชื้อน้อย

ขณะที่บางประเทศก็อาจจะยังต้องคงการกักตัวซึ่งเป็นข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข หากที่ประชุม ศบค. จะเห็นด้วยในหลักการนี้เราก็จะสนับสนุนว่า ความพร้อมของกระทรวงสาธารณสุข การแพทย์การพยาบาล เวชภัณฑ์ ต่อไป ดังนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละประเทศ

 

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า จะไม่มีภูเก็ตโมเดลแต่จะเป็นไทยแลนด์โมเดลเพราะไม่เช่นนั้นคนภูเก็ตก็จะกล่าวหาว่า เป็นจังหวัดหนูทดลองยาซึ่งอาจจะหาจังหวัดที่พร้อมนำร่องก่อน