นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กกพ. คาดว่า การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะเริ่มทยอยคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าหรือเงินประกันมิเตอร์ ได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ โดยพิจารณาจากกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติที่พร้อมก่อน โดยจะทยอยคืนให้ครอบคลุมประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 คือผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อย และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 2 ผู้ประกอบกิจการขนาดเล็ก รวมประมาณ 21.5 ล้านรายทั่วประเทศ คิดเป็นวงเงินรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท
คมกฤช ตันตระวาณิชย์
“กกพ. ได้มีการเรียกประชุมหารือร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พร้อมกับได้ให้นโยบายการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 ที่มีอยู่ประมาณ 21.5 ล้านรายทั่วประเทศ ตามมติคณะรัฐมนตรี เน้นทยอยคืนให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติพร้อมเป็นอันดับแรกโดยหวังว่าจะมีเม็ดเงินจากการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน และสร้างการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจให้ดีขึ้น คาดว่าจะเร่งออกหลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติในการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าให้ได้ภายในเดือนนี้”
นายคมกฤช กล่าว
มาตรการการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า เป็นมาตรการล่าสุดของสำนักงาน กกพ. ซึ่งได้มีการดำเนินการเพื่อการยกระดับการคุ้มครองสิทธิ และสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ใช้พลังงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ทยอยดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การปรับปรุงมาตรฐานสัญญาเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อย การปรับปรุงมาตรฐานสัญญาเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ และล่าสุดมาตรการคืนเงินดอกผลจากเงินประกันการใช้ไฟฟ้าที่มีผลบังคับใช้ และเริ่มคืนดอกผลผ่านส่วนลดค่าไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อย ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
นายคมกฤช กล่าวว่า หลักเกณฑ์ในการดำเนินการของ กกพ. นอกจากมุ่งเน้นการสร้างความเป็นธรรมกับผู้ใช้พลังงานได้อย่างครอบคลุมให้มากที่สุดแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการดูแลผลกระทบ และแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย เพื่อความมั่นคง และคุณภาพการให้บริการ
เป็นหลักด้วย
สำหรับรูปแบบการคืนเงินประกัน แนวทางปฏิบัติ ขั้นตอนการขอรับเงินคืน รวมทั้งการซักซ้อมเตรียมความพร้อมในการดำเนินการระหว่าง กกพ. และการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย จะมีการประชุมสรุปหลักเกณฑ์เพื่อประกอบการพิจารณาการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าให้ทันตามกำหนดเวลาที่วางไว้
นายประเทศ ศรีชมภู รองเลขาธิการ กกพ. กล่าวว่า เดิมที กกพ.มีแผนที่จะคืนเงินประกันการใช้ไฟอยู่แล้วในเดือน มิถุนายน แต่เพื่อเป็นการเร่งดูแลเศรษฐกิจจึงจะเริ่มดำเนินการให้ได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ นอกจากนี้ กรณีของผู้ที่จะยื่นขอเป็นผู้ใช้ไฟรายใหม่ ซึ่งเป็นผู้ใช้ไฟรายย่อยและกิจการขนาดเล็กต่อไปจะไม่ต้องจ่ายเงินปรักันการใช้ไฟอีกต่อไป โดยจะเหลือแค่เพียงการจ่ายค่าตรวจสอบอุปกรรืการใช้ไฟเพื่อความปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันผู้ใช้ไฟรายย่อยจะเก็บอยู่ 100-700 บาทขึ้นอยู่กับขนาดแอมป์ ส่วนกิจการขนาดเล็กเก็บอยู่ 1,500 บาท
“เดิมทีการยื่นขอใช้ไฟรายใหม่จะต้องวางเงิน 4 ส่วน ประกอบด้วย 1.เงินประกันการใช้ไฟ ,2.เงินค่าตรวจสอบอุปกรณ์ ,3.ค่าธรรมเนียมต่อไฟ และ4.ค่าส่วนเฉลี่ยการใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งในส่วนหลังนี้ กฟภ.ได้เลิกไปเมื่อวันที่ 1 มกราคม 63 หลังจากที่ กฟน. ได้เลิกไปก่อนแล้ว แต่ต่อไปจะเหลือส่วนเดียวคือเงินค่าตรวจสอบอุปกรณ์เท่านั้นสำหรับผู้ใช้ไฟรายย่อยและกิจการขนาดเล็ก ซึ่งก็จะต้องมาหารือกับ 2 การไฟฟ้าว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาในระยะยาว และต้องรอให้ กกพ.ประกาศก่อน โดยคาดว่าจะมีผลให้พร้อมกับการคืนเงินประกันการใช้ไฟมีนาคมหรือเมษายนเป็นอย่างช้า”