นายปิยพงศ์ จิวัฒนกุลไพศาล ผู้อำนวยการ กองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) โครงการมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา 196 กิโลเมตร (กม.) และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี 96 กม.เงินลงทุนกว่า 6.1 หมื่นล้านบาท โดยระบุว่า ขณะนี้ ทล.ได้เจรจารายละเอียดร่างสัญญาร่วมกับเอกชนผู้เสนอราคาต่ำสุด คือ กิจกรรมร่วมค้า บีจีเอสอาร์ (BTS-GULF-STEC-RATCH) ได้ข้อสรุปแล้ว พร้อมส่งร่างสัญญาให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา
“ขั้นตอนขณะนี้อยู่ระหว่างรออัยการตรวจสอบร่างสัญญา ใช้เวลาประมาณ 45 วัน หลังจากนั้นต้องเสนอไปที่กระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณากระบวนการราว 30 วัน จึงคาดว่าจะเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้ ส่วนขั้นตอนลงนามสัญญาก็น่าจะดำเนินการภายในเดือน พ.ค.2563”
รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า กลุ่มกิจการร่วมค้าบีจีเอสอาร์ เป็นเอกชนที่เสนอราคาต่ำสุด แบ่งออกเป็นมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน – โคราช ราคากลาง 33,258 ล้านบาท มีการเสนอราคาต่ำสุดอยู่ที่ 21,329 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 11,929 ล้านบาท ส่วนมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี ราคากลาง 27,828 ล้านบาท เสนอต่ำสุด 17,809 ล้านบาท หรือต่ำกว่าราคากลางถึง 10,019 ล้านบาท
นายปิยพงศ์ กล่าวต่อว่า ในขณะเดียวกันหลังตรวจสอบข้อเสนอของเอกชนรายดังกล่าว พบว่าผ่านการพิจารณาในซองที่ 1 ด้านคุณสมบัติและเทคนิค ขณะที่ซองราคา ก็มีการเสนอราคาประมูลต่ำสุด จึงเข้าสู่ขั้นตอนของการพิจารณาซอง 3 ข้อเสนอพิเศษ โดยพบว่าข้อเสนอของกลุ่มกิจการร่วมค้าบีจีเอสอาร์ ขัดต่อข้อกฎหมายของกรมทางหลวง เนื่องจากเป็นประเด็นของการหารายได้เชิงพาณิชย์ เช่น หารายได้จากการเปิดรับสื่อโฆษณาประเภทป้าย เป็นต้น
“ข้อเสนอพิเศษที่เอกชนยื่นมาก็ถือว่าน่าตื่นเต้นมาก แต่ก็มีบางข้อเสนอที่ต้องถูกปัดตกไป แม้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อกรมทางหลวงในอนาคต เพราะเป็นการหารายได้นอกเหนือจากการจัดเก็บค่าผ่านทาง ดังนั้นหากเสนอไปยัง ครม.ก็จะต้องถูกปัดตกอยู่แล้ว”
สำหรับข้อกฎหมายของกรมทางหลวง มีการกำหนดว่าต้องสร้างทาง และสามารถหารายได้จากการจัดเก็บค่าผ่านทาง รวมไปถึงพัฒนาที่พักริมทาง (Rest Area) เพื่อหารายได้จากการเช่าพื้นที่ได้เท่านั้น ส่างผลให้ข้อเสนอที่จะจัดหารายได้จากการเปิดรับพื้นที่โฆษณา จึงไม่เข้าข่ายกฎหมายรองรับ แต่อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมา ทล.ก็เคยมีนโยบายที่จะแก้กฎหมายเพื่อจัดหารายได้ส่วนนี้เพิ่มเติมด้วย
นอกจากนี้กลุ่มกิจการร่วมค้าบีจีเอสอาร์ ประกอบไปด้วย บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์, บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์, บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น และ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง โดยงานระยะแรกที่เอกชนจะต้องดำเนินการ คือ ออกแบบและติดตั้งระบบเก็บค่าผ่านทาง รวมทั้งระบบจัดการจราจร สร้างอาคารด่าน คาดว่าจะใช้เวลา 3 ปี ส่วนระยะที่ 2 ดำเนินงานและบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 30 ปี ซึ่งเอกชนจะได้รับค่าตอบแทนหลังเปิดบริการตามวงเงินที่เสนอ
อย่างไรก็ตาม โครงการมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา งานโยธาคืบหน้าแล้วประมาณ 86.5% ก่อสร้างแล้วเสร็จ 20 สัญญา จากทั้งหมด 40 สัญญา ล่าช้ากว่าแผนราว 8% ขณะที่มอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี งานโยธาคืบหน้า 24.5% ล่าช้ากว่าแผนราว 60.7% โดย ทล.คาดว่ามอเตอร์เวย์ทั้งสองสาย จะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงปี 2566