IFEC รุกพัฒนาพลังงานทดแทนครบวงจร

14 มิ.ย. 2560 | 06:53 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

IFEC พร้อมเดินหน้าธุรกิจพลังงานทดแทนนครบวงจร หลังเคลียร์ผู้ถือหุ้นลงตัว รุกขยายการเติบโตออกสู่ต่างประเทศทั้ง จีน เกาหลีและออสเตรเลีย มองวิชั่นทั้งระยะกลางและยาว เข้าสู่การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

นายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัททุกภาคส่วน ได้มีข้อตกลงร่วมกันว่า จะมุ่งมั่นพัฒนาบริษัทอย่างเต็มที่ เพื่อจะนำพาไอเฟคสู่ความเป็นผู้นำในธุริจพลังงานทดแทนครบวงจร โดยทิศทางของบริษัทนั้น จะขยายธุรกิจไปต่างประเทศมากขึ้น เพื่อเตรียมก้าวสู่บริษัทชั้นนำด้านพลังงานทดแทนในอาเซียน

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างมองหาโครงการใหม่ๆ ควบคู่กับการหารือกับพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นจีน เกาหลีและออสเตรเลีย ที่จะลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน เพื่อสร้างให้กับบริษัทเติบโตอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ไอเฟค ยังได้วางวิสัยทัศน์ระยะกลาง และระยะยาว เข้าสู่ยุคพลังงาน 4.0 ที่จะนำพลังงานผสานเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ และสอดคล้องกับแนวโน้มพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ที่ทุกประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย กำลังมุ่งมั่นพัฒนาอยู่ในขณะนี้

ทั้งนี้แนวคิดเมืองอัจฉริยะ เป็นการผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ากับสิ่งที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตของชาวเมือง ซึ่งประกอบดไปด้วย การสื่อสาร การเดินทาง ที่อยู่อาศัย พลังงาน และอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันมีหลายประเทศที่ดำเนินการแล้ว เช่น อังกฤษ ที่เมืองเซาท์แธมป์ตัน เมืองสต็อกโฮม เยอรมันนี เป็นต้น ส่วนประเทศไทยรัฐบาลวางแผนดำเนินการเมืองอัฉริยะ ที่ เชียงใหม่ และภูเก็ต
สำหรับแนวทางการดำเนินงานนั้น ไอเฟค จะรุกเข้าสู่ธุรกิจอุตสาหกรรม ที่รองรับ Smart City โดยปัจจุบันได้เริ่มวางแผนเข้าสู่โครงการ Smart Grid ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ซึ่งเป็นการปรับความสมดุลย์การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการเข้าสู่ธุรกิจมิเตอร์อัจฉริยะ ทั้งมิเตอร์ไฟฟ้า มิเตอร์น้ำประปา เป็นต้น

นายแพทย์วิชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาพลังงานทดแทนอย่างครบวงจร โดยการมุ่งไปสู่ธุรกิจ สมาร์ททรานสมิชชั่นไลน์ ซึ่งเป็นระบบส่งกระแสไฟฟ้า ที่ต้องอาศัยระบบแรงส่งที่สูง โดยจะทำการส่งกระแสไฟฟ้าไปเป็นทอดๆ ด้วยระบบสมาร์ทสับสเตชั่น หรือระบบการโยกกระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็นระบบการส่งกระแสไฟที่ประหยัด และสามารถสร้างรายได้ให้แก่ไอเฟคได้ 1478067847445

ดังนั้น ถ้าวันนี้ มีการวางระบบที่ดี จะทำให้สามารถส่งกระแสไฟฟ้าไปยังพม่า ไปยูนาน กลับมาเมืองไทย หรือแม้กระทั่งจะส่งลงไปมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซียได้ ซึ่งมองว่า ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการซื้อขายไฟฟ้า ไอเฟคมองเห็นโอกาสตรงนี้ที่จะเข้าไปดำเนินการได้

“โครงการสมาร์ทกริด ที่กำลังจะเกิดขึ้นที่พัทยาในเร็วๆนี้ เชื่อว่าจะจะทำให้เกิดการแข่งขันแย่งชิงตลาดกันรุนแรงแน่นอน ซึ่งโครงการนี้มีมาเกือบ 7 ปีแล้ว แต่ไม่เกิด เนื่องจากเปิดประมูลสมาร์ทมิเตอร์ และสมาร์ทสับสเตชั่น แล้ว แต่ตรงกลางหายไปไหน หรือตัวโยกไฟไม่มี เนื่องจากไม่มีใครเข้าใจ”

ขณะที่ธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม ที่บริษัทดำนินการอยู่ปัจจุบัน ก็เป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ไอเฟค ให้ความสำคัญเช่นกัน เพราะตลาดยังถือว่ามีการเติบโต หลังจากที่กระทรวงพลังงาน มีการเปิดรับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบผสมผสานของเชื้อเพลิง(ไฮบริด) จึงเป็นโอกาสที่บริษัทจะเข้าไปลงทุนได้อีกมาก