นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดธุรกิจรับสร้างบ้านได้รับผลกระทบในด้านก่อสร้าง เพราะบ้านของลูกค้าหรือพื้นที่ก่อสร้างส่วนมากอยู่ในต่างจังหวัด
ช่วงนี้การเดินทางค่อนข้างสะดุด โดยเฉพาะการส่งแรงงานเข้าพื้นที่ก่อสร้าง หลายจังหวัดคุมเข้มห้ามคนนอกพื้นที่เข้าออกถึงระดับอำเภอและหมู่บ้าน ต้องมีใบตรวจสุขภาพและการรับรองจากแพทย์มายืนยัน เมื่อเข้าไปทำงานแล้วก็ต้องอยู่แต่ในพื้นที่ก่อสร้างเท่านั้น
เช่นที่จังหวัดภูเก็ต หลังเกิดกระแสข่าวจะมีประกาศปิดจังหวัด แรงงานต่างด้าวก็หนีกลับประเทศเหลือแรงงานที่เป็นคนท้องถิ่นซึ่งมาจากพังงา ทำให้การก่อสร้างยังเดินหน้าต่อ โดยคุมงานในระบบออนไลน์
“ธุรกิจรับสร้างที่เป็นบริษัทชั้นนำ ธุรกิจยังไม่สะดุด เพราะมีลูกค้าเซ็นสัญญาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา กับช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ทำให้มีสต๊อคงานอยู่ได้ 3-6 เดือนนี้”
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เห็นสัญญาณการชะลอตัวของลูกค้าหลักๆ เกิดความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดระบาดของไวรัสโคโรนาที่ส่งผลต่อธุรกิจของตนเอง
“หากวิกฤตโควิด-19 ลากยาว คาดว่าไตรมาส 2 ธุรกิจรับสร้างบ้านหยุดแน่ ไม่มีลูกค้า หากผ่านครึ่งปีแรกสถานการณ์แพร่ระบาดเริ่มดีขึ้น ไตรมาส 3 ธุรกิจคงแข่งขันรุนแรงเพื่อตุนรายได้”
คาดการณ์ว่าจะมีเจ้าของบ้านที่กำลังจะเซ็นสัญญาอาจจะเลื่อนออกไป แต่ที่น่ากังวลกว่าคือเจ้าของบ้านที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ซึ่งธุรกิจของเขาได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด ถ้ากลุ่มนี้สั่งยุติการก่อสร้าง ก็คงกระทบต่อบริษัทอย่างมากกว่ากลุ่มชะลอการเซ็นสัญญา
สำหรับพีดีเฮ้าส์เอง ในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.พ.) ยอดขายรวมถือว่าสวนกระแสปัจจัยลบรอบด้าน เพราะมียอดจองแล้วเกือบ 200 ล้านบาท หรือนับเป็นจำนวนเกือบ 50 หน่วย
แผนรับมือวิกฤต เน้นบริหารกระแสเงินสด พร้อมยื่นขอสินเชื่อผ่อนปรนดอกเบี้ยต่ำ 2% ต่อปีนาน 2 ปี ฟรีดอกเบี้ย 6 เดือนแรก ที่รัฐบาลให้การเยียวยาผู้ประกอบการ SMEs มารองรับไว้ นายสิทธิพรกล่าว