แรมโบ้ แนะ"ชูวิทย์" มือไม่พาย อย่าเอาเท้าราน้ำ

13 พ.ค. 2564 | 05:28 น.

"แรมโบ้"แนะ “ชูวิทย์”มือไม่พาย อย่าเอาเท้าราน้ำ ดีแต่วิพากษ์ วิจารณ์คนทำงาน เป็นเรื่องที่น่าละอายมาก

วันที่ 13 พ.ค.2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทยออกมาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด และวัคซีนของรัฐบาลโดยระบุว่าในเรื่องของการบริหารจัดการวัคซีนนั้นนายกฯ กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาชี้แจงทุกวัน ทั้งการนำวัคซีนเข้ามาซึ่งขณะนี้ อย. ได้อนุมัติไปแล้ว 3 รายและรอประเมินคำขอขึ้นทะเบียนอีก 1 รายและทยอยยื่นเอกสารอีก 2 ราย อีกทั้งบริษัทไฟเซอร์ได้รับปากกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่จะสำรองการผลิตวัคซีนให้ไทยอีก 20 ล้านโดส

นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขก็ยืนยันกับผู้ผลิตวัคซีนว่าพร้อมสนับสนุนการขึ้นทะเบียนวัคซีนทุกตัวในโลกแต่การนำวัคซีนเข้ามานั้นจะต้องมีมาตรฐานที่ดีมีความปลอดภัยให้กับประชาชนและได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ด้วย

 

ขณะเดียวกันในช่วงเดือนมิถุนายนก็จะมีวัคซีนทยอยเข้ามาอีกจำนวนมากและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงภาคเอกชนก็ได้ช่วยกัน เร่งที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด 

และนายกฯ ยังประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งก็จะทำให้เห็นแล้วว่านายกฯ และรัฐบาล มีความตั้งใจในการที่จะแก้ไขปัญหาทุกเรื่องเพื่อให้สถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 ในประเทศไทยคลี่คลายลงให้ได้โดยเร็วที่สุด

นายเสกสกล ระบุว่าในขณะที่ประเทศต้องการความร่วมมือและอยากเชิญชวนให้ประชาชนเข้ามาฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ให้สถานการณ์คลี่คลาย แต่นายชูวิทย์กลับออกมาพูดหรือกล่าวโจมตีการทำงานของนายกฯ และรัฐบาล ซึ่งการออกมาพูดของนายชูวิทย์ไม่ได้เป็นผลดีต่อบ้านเมืองเลย

นายชูวิทย์ต้องหัดดูตัวเองด้วย อย่าทำตัวเป็นคนที่ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง วันๆ มีแต่ออกมาโจมตีคนอื่น วิพากษ์วิจารณ์คนทำงาน ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ถือเป็นเรื่องที่น่าละอายใจอย่างมาก  อย่าทำตัวมือไม่พายเอาเท้าราน้ำเลย หันมาช่วยกันสนับสนุนการฉีดวัคซีนช่วยเหลือประชาชนตามที่รัฐบาลประกาศเป็นวาระแห่งชาติ นายชูวิทย์จะดูดีในสายตาประชาชนทันที

นอกจากนี้การฉีดวัคซีนถือเป็นประโยชน์ของทุกคน เหตุใดนายชูวิทย์ถึงไม่อยากให้ประเทศชาติหายจากโควิด หรือว่านายชูวิทย์ อยากเห็นประเทศชาติ เห็นประชาชนในประเทศป่วยเพิ่มมากขึ้นทุกวันๆ  นายชูวิทย์ก็เคยเป็นนักการเมือง เป็นผู้แทนราษฎร ประชาชนต้องมาก่อน ก็น่าจะมีจิตใจที่จะคิดถึงประชาชนบ้าง เอาเวลาไปช่วยประชาชนจะดีกว่า การพูดมากมีแต่บ่อนทำลายกำลังใจกัน ถ้านายชูวิทย์จะทำความดีโดยการหุบปากเพื่อชาติแล้วลงมือมาทุ่มเทเสียสละช่วยกันเหลียวแลห่วงใยประชาชน ในชุมชนกทม.หรือต่างจังหวัดโดยนำสิ่งของไปบริจาคบ้างตามความเหมาะสมเพราะนายชูวิทย์ก็มีฐานะดีอยู่แล้ว ถ้าลงมือทำแบบนี้จะมีเสียงปรบมือชื่นชมนายชูวิทย์กันทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างแน่นอน"