นายกฯ ห่วงประชาชนขอมีสติ เดินทางฉลองเทศกาลสงกรานต์

10 เม.ย. 2564 | 03:30 น.

นายกฯ ห่วงประชาชนขอมีสติ เดินทางฉลองเทศกาลสงกรานต์

 

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ห่วงใยประชาชนที่กำลังจะเดินทางฉลองสงกรานต์ที่ภูมิลำเนาหรือไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ขอให้มีสติในการขับขี่พาหนะและยานยนต์ต่าง ๆ มีน้ำใจกับเพื่อนร่วมทาง  เคารพกฎหมาย กฎจราจร เมาไม่ขับ ลดอุบัติเหตุและความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิ้น พร้อมขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนที่เสียสละเวลาช่วงวันหยุดเทศกาลมาปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนให้เดินทางถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพด้วย

ทั้งนี้ รัฐบาลยังได้ยกเว้นการจัดเก็บค่าทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9   ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนบางปะอิน - บางพลี และตอนพระประแดง - บางแค ช่วงพระประแดง - ต่างระดับบางขุนเทียนทั้งขาเข้าและออกกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษใน 2 สาย คือ ทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา - ชลบุรี) และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี - สุขสวัสดิ์) ตั้งแต่เวลา 00.01 น.

ของวันที่ 9 เมษายน 2564 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 16 เมษายน 2564  นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6  บางปะอิน-นครราชสีมา ช่วงปากช่อง - สีคิ้ว ได้ฟรี โดยไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 9 - 19 เมษายน 2564 นี้อีกด้วย

 นายอนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรียังได้กำชับ หน่วยงานบูรณการงาน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนในการเดินทาง ซึ่งกรมทางหลวงได้จัดตั้งจุดบริการประชาชนทั่วประเทศ 147 จุด สำหรับประชาชนผู้ใช้เส้นทางสามารถแวะพัก หรือสอบถามเส้นทาง รวมทั้งบางจุดบริการยังมีเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือในกรณีรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุด้วย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ จุดตรวจกวดขันวินัยจราจรกว่า 3,000 จุดทั่วประเทศ ซึ่งมีจัดตั้งจุดตรวจสำคัญหรือเป็นจุดยุทธศาสตร์ 312  จุด

ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดต่างๆ เพื่อให้พี่น้องประชาชนเดินทางด้วยปลอดภัย ขณะเดียวกัน ก็ขอความร่วมมือประชาชนทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด- 19 หรือมาตรการ DMHTT อยู่ห่างไว้  ใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า หมั่นล้างมือ  ตรวจวัดอุณหภูมิ ใช้ไทยชนะและหมอชนะอย่างเคร่งครัด  การจัดกิจกรรมต้องยึดแนวทางฐานวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) อย่างเคร่งครัด