"ชวน" ดึงม็อบ 2 ฝ่ายร่วม "คกก.สมานฉันท์" หาทางออกประเทศ

24 พ.ย. 2563 | 06:59 น.

เปิดองค์ประกอบ คณะกรรมการสมานฉันท์ "ชวน" ดึงม็อบ 2 ฝ่ายร่วมหาทางออก

24 พฤศจิกายน 2563 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา พร้อมด้วยพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประธานวิปฝ่ายรัฐบาล แถลงภายหลังการหารือร่วม 3 ฝ่าย ในการตั้ง คณะกรรมการสมานฉันท์ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบ "องค์ประกอบของกรรมการ" ให้มี "กรรมการ" ทั้งสิ้น 21 คน ดังนี้

 

1. ผู้แทนฝ่ายผู้ชุมนุม 2 คน ( กลุ่มเรียกร้องเห็นต่างกับรัฐบาล )

2. ผู้แทนรัฐบาล 2 คน

3. ผู้แทน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 2 คน 

4. ผู้แทน ส.ส.ฝ่ายค้าน  2 คน

5. ผู้แทนสมาชิกวุฒิสภา 2 คน

6. ผู้แทนฝ่ายที่มีความเห็นอื่น 2 คน ( กลุ่มเรียกร้องเห็นด้วยกับรัฐบาล )

7. ผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย

- บุคคลซึ่งที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยเสนอชื่อ 3 คน  โดยคำนึงถึงตัวแทนให้ครอบคลุมถึงภูมิภาคต่างๆ

- บุคคลซึ่งที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเสนอ 1 คน

- บุคคลซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลเสนอ 1 คน

- ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์ในการทำงานด้านการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ 4 คน

- รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นเลขานุการ

- เจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 4 คน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

 

นายชวน กล่าวว่า สำหรับการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ มีหน้าที่ศึกษารูปแบบการสร้างความปรองดอง โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ครบองค์ประกอบทั้งหมด 21 คน หลังจากนี้จะให้ฝ่ายเลขาแจ้งให้แต่ละฝ่ายได้รับทราบ เพื่อส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมกรรมการสมานฉันท์เพื่อเริ่มเดินหน้าทำงานได้ทันที ส่วนประธานกรรมการสมานฉันท์ขึ้นอยู่กับที่ประชุมกรรมการสมานฉันท์พิจารณาจากกรรมการสมานฉันท์ด้วยกันเอง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"หมอวรงค์" เตือนสติ กลุ่มไทยภักดี อย่าไปสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์

"ธนาธร" รับทราบข้อหาคดีอาญามีลักษณะต้องห้ามสมัคร ส.ส.

เคาะ "วิรัช รัตนเศรษฐ" นั่งประธานกมธ.แก้รัฐธรรมนูญ

 

ส่วนจะมีภาระหน้าที่และรูปแบบการพิจาณาแก้ไขปัญหาอย่างไรนั้น ให้กรรมการมีการประชุมปรึกษาหารือกันก่อน และจากการลงพื้นที่พบปะรับฟังความเห็นประชาชนในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ประชาชนต่างก็เห็นด้วยหากกรรมการสมานฉันท์หากสามารถทำให้บ้านเมืองเป็นไปอย่างสงบ

“ต้องยอมรับว่า ความขัดแย้งและความเห็นต่างเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางเรื่องมันป้องกันได้เพราะฝ่ายการเมืองอย่างเราๆ รู้ดีว่าบางเรื่องมันเกิดขึ้นเพราะอะไร ซึ่งมันสามารถป้องกันได้โดยการสร้างเงื่อนไขไม่ให้มันเกิดขึ้นมาอีก แต่ก็ต้องยอมรับว่าในอนาคตเราไม่รู้ว่าความขัดแย้งจะเป็นเรื่องอะไร แต่เรารู้ปัญหาในอดีตเราก็ต้องป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพื่อลดปัญหาในอนาคต

 

ส่วนปัญหาในอนาคตมันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเราไม่มีทางรับรู้ได้เหมือนเทคโนโลยีโลกโซเชียลมีเดียยุคใหม่แม้จะมีคุณค่ามากมาย แต่ก็มีโทษอย่างร้ายแรงหากใช้ไม่ในทางที่ผิด แต่หากใช้ในทางปรองดองก็จะทำให้เกิดความเข้าใจ และหากใช้ไปในทางที่ผิดก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งเช่นกัน ซึ่งเรื่องแบบนี้ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้โดยตรงจะเข้ามามีส่วนร่วม” ประธานรัฐสภา กล่าว

 

ต่อข้อซักถามที่ว่า คาดหวังกับกรรมการสมานฉันท์ชุดนี้ไว้อย่างไรบ้างนั้น นายชวน บอกว่า ได้แจ้งต่อที่ประชุมวิปทั้ง 3 ฝ่ายแล้วว่า ไม่ได้เล็งผลเลิศว่าจะต้องเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนทันทีทันใด แต่หวังว่า การได้มีช่องทางได้พูดคุยกันในปัญหาที่เกิดขึ้น หากผู้ร่วมชุมนุมไม่เข้าร่วมเป็นกรรมการ นายชวน ยืนยันว่า ไม่มีปัญหา แต่รัฐสภายังต้องทำหน้าที่ไปตามภารกิจต่อไป หากไม่เข้าร่วมก็ทำหน้าที่ไปเท่าที่มีอยู่ไปก่อน แต่พยายามจะให้มีทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม และต้องให้เวลาแต่ละฝ่ายในการตัดสินใจ

 

 

 

นอกจากนี้นายชวน ยังกล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามกรรมการชุดนี้เป็นกรรมการชุดแรกจากทั้งหมด 2 ชุด ซึ่งชุดที่ 2 เป็นกรรมการสัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหมด โดยมอบหมายให้สถาบันพระปกเกล้าพิจารณา ซึ่งในรูปแบบที่ 2 นี้ได้มีการหารือกับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกฝ่ายให้ความเห็นในทางที่เป็นบวก และสนับสนุนให้เดินหน้าแก้ไขปัญหานี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไปเชิญแต่ท่านมาร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งสัดส่วนกรรมการหลังจากนี้จะเป็นใครนั้นจะมีการหารือกันอีกครั้งกับองค์กรภาคส่วนต่างๆ