วิษณุยอมรับ “รัฐธรรมนูญ” มีจุดอ่อน รอ "พรรคร่วม" ตกผลึกเดินหน้าแก้ไข

10 ส.ค. 2563 | 09:26 น.

“วิษณุ” ย้ำรัฐบาลมีธงแก้ไขรัฐธรรมนูญ รอนายกฯควักธงออกมา ระบุ ใช้มากับมือ "รู้จุดอ่อน" แต่ต้องรอทุกพรรคร่วมรัฐบาลตกผลึก ไม่เช่นนั้นไปล่มในสภา

วันที่ 10 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ(รธน.) รัฐบาลดูเรื่องนี้อย่างไรบ้างว่า ยังไม่ได้ดู วันนี้ต่างคนต่างคิดแต่ยังไม่เคยได้พูดกัน ตอนนี้ยังไม่มีใครส่งอะไรมา ขอรอให้ตกผลึกก่อน 

 

"ส่วนที่เคยบอกว่ารัฐบาลมีธงในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น รอให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ควักธงออกมา ทั้งนี้รัฐบาลมีส่วนในการใช้รัฐธรรมนูญนี้ ตั้งแต่มีการประกาศใช้ก็มองเห็นจุดอ่อน ส่วนจะแก้อะไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง"นายวิษณุ กล่าว

วิษณุยอมรับ “รัฐธรรมนูญ” มีจุดอ่อน รอ \"พรรคร่วม\" ตกผลึกเดินหน้าแก้ไข

เมื่อถามว่าเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วรัฐบาลก็พร้อมเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ยังไม่ทราบจะไปถึงขนาดไหน แต่ทุกคนจะต้องเข้าใจว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องอาศัยเสียงของส.ส.และส.ว.และบางประเด็นต้องอาศัยเสียงของประชาชน ถ้าเข้าใจตรงนี้กันแล้วทุกอย่างก็จะเดินไป

 

เมื่อถามย้ำว่าธงของรัฐบาลบาลเหมือนชุดของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค  ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 สภาผู้แทนราษฎร หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไร ขอให้รู้แน่ชัดก่อน  และไม่ทราบว่าเขาจะชัดเมื่อไหร่  สื่อช่วยถามเขาหน่อย  อีกทั้งเขายังต้องเสนอสภาฯด้วย แต่ทั้งนี้เมื่อเขาส่งมาเราก็พร้อมที่จะพิจารณา เพราะคำว่ารัฐบาลไม่เฉพาะนายกฯหรือตน แต่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค ก็ตองพูดคุยกัน แม้จะไม่ถึงขั้นเป็นเอกภาพแต่ก็ต้องให้ใกล้กับคำว่าเอกภาพมากที่สุด ไม่เช่นนั้นจะไปล่มตกในสภาฯ  โดยพรรคร่วมรัฐบาลไม่ยกมือให้ถ้าเป็นเช่นนั้นจะยุ่ง 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“วัชระ”ชี้แก้รธน.ขึ้นอยู่กับความจริงใจของนายกฯคนเดียว

"ธนกร"โต้"อนุดิษฐ์" รัฐบาลไม่เคยเตะถ่วงแก้รธน.

'ส.ว.วันชัย'​ ออกตัว เสนอแก้ รธน. 3 ประเด็น ดับขัดแย้ง

นายกฯหนุนแก้รธน. เตรียมชงร่างฉบับรัฐบาลควบคู่

 

“และเรื่องนี้เคยมีการพูดเปรยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เกี่ยวกับขั้นตอนแต่ยังไม่ได้พูดถึงเนื้อหาสาระ แต่ยังไม่รู้ แต่ละพรรคยังสงวนท้าที ซึ่งผมเข้าใจว่าอาจเห็นไม่ตรงกัน คิดกันคนละอย่าง บางปัญหาเป็นความเดือดร้อนของพรรคหนึ่ง แต่เป็นที่พอใจของอีกพรรค”