50 ส.ว.รอชำแหละ 3 พรก.กู้เงิน

30 พ.ค. 2563 | 05:49 น.

"วันชัย สอนศิริ" วิปวุฒิฯ ประกาศ สภาสูง ยุคใหม่เริ่มแล้ว จัดหนัก 50 ส.ว.รอชำแหละ 3 พ.ร.ก.เงินกู้ ต้นเดือนมิ.ย. นี้ ส่งสัญญาณถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต้องมาฟัง-มาตอบคำถาม ขู่ "อย่าคิดว่า ส.ว.จะโหวตให้เสมอไป"

พรก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท ตามขั้นตอนหลังจากผ่านขั้นตอนของส.ส.ไปแล้ว จะเข้าสู่การพิจารณาของสว.ต้นเดือนมิถุนายนนี้ต่อไป

30 พฤษภาคม 2563 นายวันชัย สอนศิริ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิฯ) โพสข้อความในเพจเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า พรก.เกี่ยวกับการกู้เงินทั้ง 3 ฉบับที่สภาผู้แทนราษฎรกำลังพิจารณานี้ เมื่อเสร็จแล้วคงนำเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาในวันจันทร์ที่ 1 และวันอังคารที่ 2 มิ.ย. ซึ่งทางวุฒิสภาได้เตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว

ก่อนหน้านี้ วุฒิสภาได้ส่งพรก.ทั้ง 3 ฉบับให้สมาชิกทำการพิจารณาศึกษามาโดยลำดับ และทราบว่าคณะกรรมาธิการแต่ละคณะที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้นำไปศึกษา แยกแยะ ลงลึกในรายละเอียด เชื่อว่าการอภิปรายในวุฒิสภาครั้งนี้จะเป็นไปด้วยเนื้อหาที่ถึงลูกถึงคน ถึงปัญหา ถึงแนวทางแก้ไข ทั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะอย่างเข้มข้นในฐานะสภากลั่นกรองตรวจสอบ ทั้งเป็นการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินอย่างถึงพริกถึงขิง เพราะทราบว่าคณะกรรมาธิ การแต่ละคณะ มีทั้งอดีตรัฐมนตรี อดีตข้าราชการผู้ใหญ่ ผู้บริหารระดับสูง ผู้มีประสบการณ์ที่ผ่านเรื่องเหล่านี้มามากมาย ย่อมรู้ย่อมเห็น ซึ่งจะเป็นข้อมูลอย่างสำคัญในการอภิปรายตรวจสอบพ.ร.ก.ในครั้งนี้

"มีสมาชิกวุฒิสภาแจ้งความจำนงที่จะอภิปรายถึง 50 คน และประธานวุฒิสภากำหนดเวลาให้ไว้ถึง 2 วัน หามรุ่งหามค่ำ เรียกว่าจัดหนักจัดเต็มจัดใหญ่ ทุกเม็ดทุกดอกของเนื้อหาสาระ บางคนบางคณะจะเล่นเรื่องแร้งลง รุมทึ้ง เชื้อชั่วไม่เคยตายจากการหากินงบประมาณ บางคณะก็ลงรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ไม่ใช่ปล่อยให้รัฐเป็นผู้กำหนดแต่ฝ่ายเดียวจนประชาชนขาดการมีส่วนร่วม ภาคประชาสังคมจะต้องมีส่วนอย่างสำคัญในการร่วมพิจารณาเยียวยาแก้ไข ทั้งการอุ้มคนรวยช่วยคนจน ตรงจุดตรงประเด็นหรือไม่ กู้มาแล้วนำมาใช้ถูกต้องเหมาะสมหรือเปล่า การโกงกินทุจริตคอร์รัปชั่นในสถานการณ์วิกฤตจะเข้มงวดกวดขันได้อย่างเต็มที่เต็มกำลังหรือไม่ กู้มาแล้ว นำมาใช้แล้วไม่ให้มันรั่วไหลอย่างไร เหล่านี้คือประเด็นหลักๆใหญ่ๆที่เป็นความห่วงใยของสมาชิกวุฒิสภา"

 

พร้อมทิ้งท้ายว่า รัฐมนตรีผู้เกี่ยวข้องจะต้องรับฟัง ไม่ใช่สักแต่ว่ามาแถลงแล้วก็ไม่อยู่ในที่ประชุม จะมาอีกทีก็ตอนมากล่าวขอบคุณเมื่อวุฒิสภาโหวตผ่านแล้ว ทำเป็นเพียงพิธีกรรมเท่านั้น ไม่ได้มีความจริงจังหรือจริงใจต่อวุฒิสภาโดยไม่มานั่งรับฟังการอภิปรายให้ตลอด มีสมาชิกบางคนบางกลุ่มถึงกับบอกว่าถ้าไม่ให้ความสำคัญกับสภาก็อาจจะเห็นดีกัน อย่าคิดว่าสมาชิกวุฒิสภาจะโหวตให้เสมอไป สถานการณ์เปลี่ยน สังคมเปลี่ยน ทุกคนต้องเปลี่ยนเพื่อประเทศและประชาชน คิดแบบเดิมทำแบบเดิมอาจจะเป็นเรื่องของที่อื่น แต่วันนี้ เวลานี้วุฒิสภาไม่ใช่แล้วและก็เปลี่ยนแล้ว เป็นมิติใหม่ของการทำงาน