นายกฯเชิญ20มหาเศรษฐีไทย เสนอไอเดียฝ่าวิกฤติโควิด

17 เม.ย. 2563 | 11:29 น.

นายกฯ เตรียมออกจดหมายเชิญ 20 มหาเศรษฐีของไทย และภาคเอกชน เสนอทางออกเพื่อฝ่าวิกฤติโควิดในนาม "ทีมประเทศไทย"

เมื่อเวลา 18.00น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงออกการณ์นายกรัฐมนตรี ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) โดยตอนหนึ่งระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในภาวะการตึงเครียดที่สุดไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน วิกฤติโควิดทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก ไม่สนใจว่าประเทศนั้นจะจนหรือรวย

ซึ่งมีนักวิชาการคาดการณ์ว่า ทั้งโลกจะมีผู้เสียชีวิตพุ่งถึงหลักแสนคน ซึ่งเป็นวิกฤติครั้งใหญ่ที่รัฐบาลต้องดึงศักยภาพที่ดีที่สุดออกมาให้ได้ ทั้งในงานด้านสุขภาพและการช่วยเหลือประชาชนให้มีเงินเพียงพอต่อการดำรงชีวิต  ทราบดีถึงความยากลำบาก ซึ่งได้มีเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมาหารือว่าจะแก้ไขอย่างไร รวมทั้งฝากติตามเรื่องเงินเยียวยา 5,000 บาทแล้ว ก็ขอให้ไปทำงานร่วมกับหลายกระทรวงที่มีมาตรการดูแลกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง 

นายกฯ กล่าวอีกวว่า หน้าที่คนไทยเราจะต้องสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้น ถ้าต้องการเอาชนะสงครามกับโควิด 19 เราต้องยอมรับความแตกต่าง รัฐบาลหาคำตอบฝ่ายเดียวไม่ได้  ดังนั้นเราต้องต่อสู้ด้วยกันเป็นหนึ่งเดียวทั้งประเทศ เป็น "ทีมประเทศไทย" ด้วยกัน ดึงทุกคนที่มีความรู้ความสามารถ เราต้องการคนเก่งให้มาร่วมมือกัน นี่คือทีมประเทศไทย ทั้งจากภาครัฐ เอกชน มหาวิทยาลัย มหาเศรษฐี ที่ต้องยอมเสียสละตัวเอง เช่นเดียวกันทีมเแพทย์เพื่อช่วยเหลือรักษาผู้อื่น 

"ผมขอเพิ่มความร่วมมือจากภาคเอกชน สัปดาห์หน้าจะออกจดหมายเปิดผนึกถึงมหาเศรษฐี 20 ท่าน ว่าเราจะร่วมมือกับท่านอย่างไรเพื่อร่วมมืออย่างไรได้บ้างต่อไป เพราะท่านมีความสำคัญและมีบทบาท ในการช่วยเหลือประเทศด้วยกัน เข้าใจและทราบซึ้งที่หลายท่านเริ่มไปแล้ว แต่เราต้องการความช่วยเหลืออย่างมากที่สุด ใช้องค์กรศักยภาพสูงของท่านมาช่วยกู้วิกฤติครั้งนี้"

นายกฯ กล่าวอีกว่า รวมทั้งเอกชนทั้งหมดด้วย จะเดินทางไปพบปะสมาคมธุรกิจ รับฟังข้อเสนอแนะว่าต้องการมีบทบาทอย่างไรในการแก้ปัญหา ต้องการได้ยินความคิดเห็นว่ารัฐบาลควรทำงานอย่างไร ในการาขยายแรงกำลังให้ใหญ่ขึ้น ที่มีความคล่องตัวในการทำงาน แม้มีความคิดเห็นที่หลากหลาย ที่มีมุมมองการแก้ไขปัญหาที่ต่างกัน แต่เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด มีความคิดเห็นต่างกันบ้างก็ล้วนแล้วปรารถนาดีต่อชาติทั้งสิ้น 

"ผมขอให้มาทำงานร่วมกันเป็นครอบครัวเดียวกันมมีความเป็นปึกแผ่นในยามที่เราตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ให้โลกเห็นว่าเราร่วมมือช่วยเหลือกันโดยไม่มีสีเสื้อไม่มีฝ่ายทางการเมือง  แม้เป็นช่วงของความทุกข์ยาก นี่คือช่วงเวลาที่เราได้ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของคนไทย เป็นความกลมเกลียวครอบครัวเดดียวกัน  ขอให้ทุกคนมาร่วมมือกัน เราจะต้องชนะไปด้วยกัน

สำหรับ10 อันดับทำเนียบมหาเศรษฐีของไทยจากการจัดอันดับของ ฟอร์บส์ ปี 2563 ประกอบด้วย

อันดับ 1 พี่น้องเจียรวนนท์ แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ สินทรัพย์ 2.73  หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (9 แสนล้านบาท)

อันดับ 2 เฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังระดับโลกอย่าง Red Bull สินทรัพย์  2.02  หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (6.66 แสนล้านบาท)

อันดับ 3 เจริญ สิริวัฒนภักดี จากเครือไทยเบฟเวอเรจ สินทรัพย์ 1.05  หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (3.46 แสนล้านบาท)

อันดับ 4 ตระกูลจิราธิวัฒน์  เจ้าของอาณาจักร เซ็นทรัล สินทรัพย์ 9.5   พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (3.13 แสนล้านบาท)

อันดับ 5 สารัชถ์ รัตนาวะดี  เจ้าของบริษัทพลังงาน กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ สินทรัพย์ 6.8  พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (2.24 แสนล้านบาท )

อันดับ 6 อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา แห่งกลุ่มคิงเพาเวอร์ ของอาณาจักรดิวตี้ฟรี สินทรัพย์ 3.8   พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.25 แสนล้านบาท)

อันดับ 7 ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ ธนราชันย์แห่งอาณาจักรสี ทีโอเอ สินทรัพย์ 3.1   พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.02 แสนล้านบาท)

อันดับ 8 ตระกูลโอสถสภา  ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศ  สินทรัพย์ 3   พันล้านเหรียญสหรัฐฯ  (9.9 หมื่นล้านบาท )

อันดับ 9 วานิช ไชยวรรณ  แห่งไทยประกันชีวิต  สินทรัพย์ 2.8   พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (9.24 หมื่นล้านบาท)

อันดับ 10 ชูชาติ-ดาวนภา เพชรอำไพ เจ้าของธุรกิจสินเชื่อจักรยานยนต์ เมืองไทยลีสซิ่ง สินทรัพย์ 2.65  พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (8.74 หมื่นล้านบาท)

อันดับ 11 นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ 2.6 พันล้านเหรียญ (8.49 หมื่นล้านบาท)

อันดับ 12  Harald Link 2.3 พันล้านเหรียญ(7.51 หมื่นล้านบาท)

อันดับ 13 กฤตย์ รัตนรักษ์ 2.25 พันล้านเหรียญ(7.35 หมื่นล้านบาท)

อันดับ 14 คีรี กาญจนพาสน์ 1.9 พันล้านเหรียญ(6.20 หมื่นล้านบาท)

อันดับ 15 สันติ ภิรมย์ภักดี 1.86 พันล้านเหรียญ(6.07 หมื่นล้านบาท)

อันดับ 16 ทักษิณ ชินวัตร 1.85 พันล้านเหรียญ( 6.04 หมื่นล้านบาท)

อันดับ 17 วิชัย ทองแตง 1.8 พันล้านเหรียญ(5.88 หมื่นล้านบาท)

อันดับ 18 สมโภชน์ อาหุนัย 1.75 พันล้านเหรียญ( 5.72 หมื่นล้านบาท)

อันดับ 19 ฤทธิ์ ธีระโกเมน 1.65 พันล้านเหรียญ(5.39 หมื่นล้านบาท)

อันดับ 20 ศุภลักษณ์ อัมพุช  1.6 พันล้านเหรียญ(5.23 หมื่นล้านบาท)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง