“ธีรยุทธ”แนะใช้ก.ม.เข้มข้นตั้งแต่เมษาฯนี้ยับยั้งโควิดระบาด

30 มี.ค. 2563 | 08:59 น.

“ธีรยุทธ”เสนอใช้ก.ม.เข้นข้นตั้งแต่เมษาฯนี้ เพื่อยั้งวิกฤติโควิด เสนอปิดตลาดใหญ่-ชุมชนแออัด ยึดโมเดล “จีน” หยุดการแพร่ระบาด

 

นายธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เผยแพร่บทความผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อแสดงความเห็นต่อสถานการณ์การระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อและมีผู้ที่เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น  ในหัวข้อ “เมษาชี้ชะตาประเทศ”   

โดยมีสาระสำคัญ คือ สนับสนุนให้ประชาชนใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing เพื่อสู้วิกฤตการระบาดไวรัสโควิด-19 แต่ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องควรบังคับใช่มาตรการที่เข้มเข้นและจริงจัง แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ คือ มาตรการบังคับทางสังคม หรือ Social Santion  หมายถึงการบังคับใช้กฎหมาย ออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้อำนาจป้องกันประเทศในภาวะสงคราม บางด้าน  เช่น  บังคับให้เอกภชนทำกิจกรรมช่วยเหลือต่อการสู้โรค เพราะมองว่ามาตาการเว้นระยะห่างอาจได้รับความร่วมมือไม่เพียงพอ  
 

 


นายธีรยุทธ ระบุด้วยว่า เดือนเมษายนทุกฝ่ายต้องทุ่มเททำงานอย่างหนักที่สุด พร้อมเสนอ 3 มาตรการ คือ  

1.เลี่ยงการระบาดในพื้นที่รวมกลุ่ม โดยเพิ่มพื้นที่ เช่น ตลาดขนาดใหญ่, ชุมชนแออัดทุกจังหวัด นอกจากที่ประกาศพื้นที่บริเวณสนามมวย, การชุมนุมทางศาสนา


 2. ใช้มาตรการควบคุมที่เข้นข้นในจังหวัดใหญ่ที่คาดว่าจะพบการเพิ่มของผู้ติดเชื้อ เช่น ภูเก็ต, เชียงใหม่, ชลบุรี, นนทบุรี, สมุทรปราการ, 4 จังหวัดภาคใต้ เป็นต้น 

และ 3.จัดสภาพและการปฏิบัติด้านการขนส่งให้สำเร็จและปฏิบัติได้ เช่น จัดระยะห่างบนรถสาธารณะในเมืองและต่างจังหวัด 

“ที่ผ่านมาแพทย์ พยาบาล สาธารณสุขของเราทำงานได้ดีเยี่ยม และรัฐบาลปรับตัวได้ถูกต้อง โดยให้ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เป็นผู้นำทางความคิด ขณะที่รัฐบาลเป็นผู้พิจารณาภาพรวมและดำเนินมาตรการรองรับอื่นๆ  ถือว่าทำถูกทางและไม่สายเกินไป มีโอกาสควบคุมไม่ให้คนติดโรคทั้งเมือง เหมือน อิตาลี อังกฤษ อเมริกา หรือสเปน สำหรับคนไทยมีพวกวัยรุ่น หรือพวกนอกขอบที่ปฏิเสธ ขัดขืน ลองดีสุดโต่งอยู่จำนวนหนึ่ง แต่โดยรวมไม่กี่เปอร์เซ็นต์ สำหรับการประกาศภาวะฉุกเฉิน ตั้งแต่ 26 มีนาคม คนไทยร่วมมือและรณรงค์สร้างระยะห่างได้ดี ระดับ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่จำเป็นต้องติดตามดูพัฒนาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งกรณีของต่างประเทศที่ใช้เส้นทางที่เข้มข้นและบังคับจริงจัง ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด” นายธีรยุทธ ระบุ 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในบทความของนายธีรยุทธ ยังได้นำผลการวิจัยและวิเคราะห์การแก้ปัญหาระบาดไวรัสโควิด-19 ของประเทศจีน ประกอบ โดยเฉพาะผลงานของนักวิชาการมหาวิทยาลัยปักกิ่งของจีน ที่สรุปถึงมาตรการที่เข้มข้นของจีน ทำให้หยุดและยับยั้งการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ทุกเมือง  เช่น มาตรการสอบสวน, ติดตามผู้ป่วยทุกราย และพบใช้มาตรการสุ่มตรวจหรือติดตามเคสต่างๆ อย่างเต็มที่ 


โดยผลการควบคุมของจีน พบว่าการแพร่กระจายตัว จากผู้ป่วย 1 คนไปยังคนอีก 2-3 คนละลด เหลือ 0.2 คนภายใน10วัน  พร้อมทิ้งท้ายให้ประเทศไทยบังคับใช้มาตรการที่เข้มข้น และเป็นกำลังใจให้ตื่นตัวจนกว่าการระบาดในโลกจะสงบ และต้องป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์การระบาดรวมกลุ่มขึ้นอีก