ยุทธการ ‘ดับสุริยาก่อนอรุณรุ่ง’ สวนหมัดน็อกฝ่ายค้าน
ยังไม่ทันได้ระเบิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมรัฐมนตรีอีก 5 คน ในระหว่างวันที่ 24-27 กุมภาพันธ์นี้ ปรากฏมีความเคลื่อนไหวคึกคัก ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน เตรียมวางยุทธวิธีสู้ศึกใหญ่ทั้งในสภาและนอกสภา อย่างเข้มข้น
ตั้งวอร์รูมนอกสภา
โฟกัสไปที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะ พรรคแกนนำรัฐบาล ออกตัว แรงก่อนใคร นอกจากจัดติวเข้ม ส.ส.รัฐบาล รับมือศึกซักฟอกที่จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ งานนี้ส.ส.ทุกคน ห้ามขาด รวมทั้งรัฐมนตรีที่ถูกซักฟอก ยกเว้น พล.อ.ประยุทธ์ เพราะภารกิจรัดตัว
ที่ฮือฮาไม่พ้นการตั้ง “วอร์รูมพปชร.” ทั้งในสภาและนอกสภา พร้อมงัดแผน “เกลือจิ้มเกลือ” โต้ฝ่ายค้านในสภา โดยคณะทำงานจะเก็บข้อมูลการอภิปรายอย่างละเอียดทุกคำพูด เพื่อให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการฟ้องร้องคดีให้เด็ดขาด จะได้เป็นบรรทัดฐาน มิให้สร้างหลักฐานอันเป็นเท็จใส่ ความผู้ถูกอภิปรายในอนาคต
การทำงานของทีมในสภา ที่มี นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล จะมีหน้าที่ดูแล ส.ส. ให้มาร่วมประชุม และตรวจสอบการอภิปรายของ ส.ส.ฝ่ายค้าน ให้อยู่ในระเบียบวาระ ไม่อภิปรายนอกประเด็น ต้องไม่มีลักษณะเสียดสี ทำให้บุคคลอื่นเสียหายโดยไม่จำเป็น
คะแนนในวันโหวตลงมติ ไม่ไว้วางใจในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ กำหนดให้นายกฯและรัฐมนตรีทั้ง 5 คน ต้องมีคะแนนเท่ากันทุกคน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลมีเสียง 528 เสียง (มี ส.ส.อนาคตใหม่มาเพิ่มอีก 4 เสียง) หักตัว ประธานสภาออกไป 3 คน เสียงรัฐบาลจะมี 255 เสียง ยังไม่รวม 5 เสียงของพรรคเศรษฐกิจใหม่ ขณะที่ฝ่ายค้านมี 230 เสียง
ส่วนคณะทำงาน “วอร์รูม นอกสภา” ส่วนใหญ่เป็นอดีตส.ส.เพื่อไทย ที่ย้ายสังกัดมาร่วมชายคาพลังประชารัฐ มาเป็นคณะทำงาน ทำหน้าที่เตรียมข้อมูลให้รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ อาทิ นายจำลอง ครุฑขุนทด ประธานคณะทำงาน วอร์รูมนอกสภา นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เป็นเลขาฯ นายวัชระ กรรณิการ์ เป็นทีมโฆษก นายทศพล เพ็งส้ม หัวหน้าทีมกฎหมาย
6 ทีมหนุนข้อมูล
ลักษณะการทำงานของ ทีม “วอร์รูมนอกสภา” จะแยกเป็นทีมทำงานเพื่อสนับสนุนข้อมูลให้นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีอีก 5 คน คือ ทีมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จะมี นายจำลอง เป็นหัวหน้าทีม คณะทำงานประกอบด้วยนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายทวี สุระบาล นายฉลอง เรี่ยวแรง นายรณฤทธิชัย คานเขต นายเอกภาพ พลซื่อ
ทีม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ มีนายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล นายเวียง วรเชษฐ์ นายภิรมย์ พลวิเศษ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช, ทีม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ มีนพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล นายวัชระ กรรณิการ์ นายสรชาติ สุวรรณพรหม นายพิกิฏ ศรีชนะ
ทีม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มี นายอำนวย คลังผา นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ นายธีรทัศน์ เตียวเจริญโสภา นายสุทธิชัย จรูญเนตร, ทีมนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ มีนายธีรยุทธ วานิชชัง นายทศพล เพ็งส้ม นายภาคิน สมมิตรธนกุล นายสุชาติ ไตรแสงรุจิระ และทีม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ มีนายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ
“เมื่อฝ่ายค้านมียุทธการเตรียมซักฟอก เราก็มียุทธการดับสุริยาก่อนอรุณรุ่งไว้โต้กลับ เราเหมือนติวเตอร์ที่ต้องเก็งข้อสอบไว้ทั้งหมด ไม่ใช่เข้าห้องสอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไร” เป็นเสียงท้าทายจาก “ทศพล เพ็งส้ม” หัวหน้าทีมกฎหมาย วอร์รูมพปชร. ฝากถึงทีมเพื่อไทย
ฝ่ายค้านเตรียม 40ส.ส.ถล่ม
ขณะที่ความพร้อมของพรรคฝ่ายเพื่อไทย ในการเตรียม ซักฟอกนายกฯและ 5 รัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย ประกาศพร้อมจะเปิดเกมนอกสภาตอบโต้พรรคพลังประชารัฐ โดยตั้งชื่อคณะกรรมการพิเศษ และคณะที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ว่า “ยุทธการอรุณรุ่ง” พร้อมประกาศว่า ทุกอย่างในการอภิปราย มีเหตุผล เป็นข้อมูลที่ไม่เคยถูกเปิดเผยที่ไหนมาก่อน
“รับรองได้ว่าเมื่อถูกเปิดเผยแล้วรัฐบาลต้องสะเทือนอับอาย ไม่สามารถเดินถนนได้ ต้องใส่หน้ากากเดินแม้ไวรัสจะหมดไป”
ผู้อภิปรายของพรรคเพื่อไทยในศึกครั้งนี้วางไว้ประ มาณ 14 คน เมื่อร่วมพรรคฝ่ายค้านอื่นจะมีผู้อภิปรายของพรรคฝ่ายค้านรวม 35-40 คน ขณะที่การอภิปรายวางไว้วันละ 15 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ยกเว้นวันแรกจะใช้เวลา 9-10 ชั่วโมง ภาพรวมอภิปรายครั้งนี้คาดใช้เวลา 4 วันเต็ม มีชั่วโมงอภิปรายและชี้แจงไม่ตํ่ากว่า 54 ชั่วโมง
หัวหอกคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย นอกจากนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค แล้วยังมีผู้อภิปรายหลัก อาทิ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม นายสุทิน คลังแสง นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ นายชลน่าน ศรีแก้ว นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และนางสาวจิราพร สินธุไพร
สำหรับยุทธวิธีการอภิปรายไม่ไววางใจครั้งนี้ พรรคเพื่อไทย มุ่งโจมตีไปที่กล่องดวงใจคือ “พล.อ.ประยุทธ์” ทุกประเด็นไม่ ว่าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ “รัฐมนตรี” คนใด จะต้องเชื่อมโยงไปที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ให้ได้
ทั้งหมดเป็นแนวทางอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและ 5 รัฐมนตรี ที่จะมีขึ้นช่วงวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์นี้
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,551 วันที่ 23-26 กุมภาพันธ์ 2563