คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) รับข้อเสนอ สตช. สรรหากำลังพลทดแทนด้วยการให้มี “ตำรวจประจำการ” ทำหน้าที่ด้านรักษาความปลอดภัย คุมฝูงชน ออกตรวจพื้นที่และบริการประชาชน หวังแก้ปัญหาขาดแคลนกำลังพล
วันนี้(4 มค.2561) เว็บไซต์ http://www.radioparliament.net เผยแพร่ว่า นายมานิจ สุขสมจิตร ประธานคณะอนุกรรมการด้านการสื่อสารกับสังคม ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้รายงาน สถานภาพกำลังพลข้าราชการตำรวจ จากข้อมูลล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคม 2560 ว่า มีตำแหน่งข้าราชการตำรวจ 296,315ตำแหน่ง แต่มีบุคลากรเพียง 219,564 ตำแหน่ง ยังเหลือตำแหน่งว่างอีก 76,751ตำแหน่ง ด้วยปัญหาขาดแคลนกำลังพลดังกล่าว ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของตำรวจ ดังนั้น สตช. มีข้อเสนอให้แก้ไขปัญหาด้วยการสรรหากำลังพลทดแทน ด้วยการให้มี “ตำรวจกองประจำการ”
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ได้มีการพิจารณาข้อเสนอเรื่อง ตำรวจกองประจำการมา 2 ครั้งแล้ว พบว่า จะต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 โดยให้เรียกชื่อตำรวจประเภทนี้ว่า “ตำรวจกองประจำการ” ให้มีหน้าที่สนับสนุนภารกิจในการรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในอาคารสถานที่ หรือรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุม หรือการควบคุมฝูงชน การลาดตระเวนการออกตรวจพื้นที่ และการบริการประชาชน ตามที่ผู้บังคับบัญชามีคำสั่ง โดยการปฏิบัติหน้าที่จะต้องมีข้าราชการตำรวจควบคุมและร่วมปฏิบัติหน้าที่ด้วยทุกครั้ง ทั้งนี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดในกฎหมาย
นายมานิจ กล่าวถึงแนวคิดที่จะให้มีตำรวจกองประจำการว่า ได้ริเริ่มมาก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2553 และมีการพัฒนาข้อเสนออย่างต่อเนื่อง จนเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2558 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจแก้ร่างแก้ไขเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ให้มีตำรวจกองประจำการ และต่อมาเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ส่งร่างแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าวมาให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ดำเนินการพร้อมกับการปฏิรูปตำรวจไปในคราวเดียวกัน สำหรับรายละเอียดการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนกำลังพลโดยให้มีตำรวจกองประจำการนั้น คณะกรรมการฯ จะมีการประชุมอีกครั้งในช่วงต้นปีนี้ และเมื่อเสร็จสิ้นการรับฟังความเห็นจากประชาชนและผู้เกี่ยวข้องแล้ว จะทำเป็นข้อเสนอต่อรัฐบาล เช่นเดียวกับข้อเสนอในการปฏิรูปตำรวจประเด็นภาระหน้าที่และการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งประเด็นการสืบสวนสอบสวน ซึ่งจะต้องเสนอให้รัฐบาลภายในเดือนเมษายน 2561 ต่อไป