ชง 2 แพคเกจ สร้างแรงจูงใจยืดเวลารับเงินชราภาพ

11 ก.ค. 2560 | 10:56 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

คณะทำงานประกันสังคม ชง 2 รูปแบบ สร้างแรงจูงใจ รับเงินชราภาพ “ปลัดแรงงาน”เผยยังไม่มีข้อสรุป เน้นประโยชน์สูงสุดผู้ประกันตน เกิดการออมมากขึ้น และไม่บังคับ ขณะที่ เลขา สปส.ย้ำ เงินกองทุนฯมั่นคง ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินผู้ประกันตนในอนาคต

ปุณฑริก-2

หม่อมหลวง ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า การขยายระยะเวลาในการรับเงินชราภาพจาก 55 ปี ป็น 60 ปี ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาพิจรณา โดยให้อนุกรรมการฯไปดำเนินการ และยังไม่มีข้อสรุป ต้องดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อน แต่หลักการสำคัญ เน้นผู้ประกันตนได้ประโยชน์ สูงสุดและเกิดการออมมากขึ้น มีช่องทางให้ผู้ประกันตนเลือก แบบสมัครใจ และจะไม่มีการบังคับ
สุรเดช

นายแพทย์สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวเสริมว่า เบื้องต้นคณะทำงานได้เสนอ 2 แนวทางสำหรับการสร้างแรงจูงใจ มาให้พิจารณา โดยรูปแบบที่ 1 การสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกันตน ขยายระยะเวลาการเกษียณออกไป ตัวอย่างเช่น เมื่อครบกำหนดอายุ 55 ปี แต่ต้องการจะเกษียณ ที่ 56 ปี ทางสำนักงานประกันสังคม จะจ่ายเงินที่จะต้องได้รับไปก่อน จำนวน 10 เดือน และผู้ประกันตนก็ยังได้รับเงินเดือนขณะที่ยังทำงานต่อไป หรือเมื่อถึงอายุ 56 ที่จะเกษียณแล้ว ยังต้องการอยู่ต่อไปเกษียณ ที่อายุ 57 ปี ทางสำนักงานประกันสังคม ก็จะจ่ายเงินในส่วนที่จะได้รับให้อีก 10 เดือน และก็ยังได้รับเงินเดือน ในขณะที่ยังทำงานอยู่ ฯลฯ จะเห็นว่า ผู้ประกันตน จะได้รับทั้งเงินก้อนเมื่อยืดระยะเวลาเกษียณ และเงินเดือนในขณะที่ทำงานอยู่

ส่วนรูปแบบที่ 2 เป็นการให้ผู้ประกันตน รับเงินชราภาพ เมื่อายุครบ 55 ปีตามเดิม และเมื่อกฏหมายใหม่ ที่จะขยายระยะเวลา รับเงินชราภาพเป็น 60 ปี มีผลบังคับใช้ ผู้ประกันตนใหม่ จะเข้าเงื่อนไข รับเงินชราภาพ เมื่ออายุ 60 ปี ส่วนผู้ประกันตนที่ครบอายุ 55 ปีแต่ต้องการออมเงินต่อ ไปจนถึง 60 ปี ก็สามารถสมัครเข้า ตามเงื่อนไขใหม่ได้ทันที   มอบหมายให้อนุกรรมการฯไปดำเนินการรวบรวมข้อมูล และจัดทำข้อสรุป ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเดินสาย รับฟังความคิดเห็น จากสังคม และผู้ประกันตน ทุกภาค ทั่วประเทศ หลังจากนั้นจะนำมาปรับปรุงให้เกิดประโยชน์กับผู้ประกันตน แต่หากไปรับฟังข้อคิดเห็นแล้ว ผู้ประกันตนมีข้อเสนอที่ดี ทางสำนักงานประกันสังคมก็จะนำมาประกอบในการพิจารณาด้วย โดยจะมีตัวแทนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมจัดทำแนวทางครั้งนี้ด้วย คาดว่า จะแล้วเสร็จประมาณเดือน สิงหาคม 2560 และนำเสนอ ที่ประชุมบอร์ดประกันสั้งคมอีกครั้งหนึ่ง

“การดำเนินการเรื่องนี้ จะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ใช้ระยะเวลาประมาณ 7 ปี และขอย้ำอีกครั้ง เงินกองทุนฯเพียงพอ มีสำหรับการจ่ายให้ผู้ประกันตน ไปอีก 37 ปี การดำเนินการครั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับผู้ประกันตน รุ่นลูกรุ่นหลาน ของเรา ให้มีการดำรงชีพที่มั่นคง และต้องมีการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ให้กับ ผู้ประกันตนทุกประเภท ในอนาคตด้วยเช่นกัน”