“มือปืนป๊อปคอร์น”ใจชื้น ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องยิงใส่ผู้ชุมนุมปี 57

ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง “มือปืนป๊อปคอร์น”ยิงใส่ผู้ชุมนุมแยกหลักสี่ ชี้ไม่มีพยานยืนยัน หลังศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 37 ปี 4 เดือน แต่ให้ขังจำเลยไว้ระหว่างฎีกา

วันนี้(27 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.1626/57 ที่ พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือท็อป มือปืนป๊อบคอร์น อายุ 27 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น พ.ร.บ.อาวุธปืน และเครื่องกระสุน

ตามฟ้องของอัยการโจทก์เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2557 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2557 จำเลยใช้อาวุธปืนยาวไม่ทราบชนิดยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม นปช.บริเวณห้างไอที.สแควร์ส แยกหลักสี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นเหตุให้นายอะแกว แซ่ลิ้ว ถึงแก่ความตาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย จำเลยปฏิเสธ

คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 3 มี.ค.2559 เห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาฐานฆ่าผู้อื่นฯ จำคุกตลอดชีวิต ฐานร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก3 ปีและฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควรฯ จำคุก 3 ปี

อย่างไรก็ตาม ชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้าง ลดโทษให้กระทงละ 1 ใน 3 เหลือฐานฆ่าผู้อื่นฯ เหลือจำคุก 33 ปี 4 เดือน , ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนฯ 2 ปี และฐานพาอาวุธปืนฯ จำคุก 2 ปี รวมจำคุกจำเลยไว้ทั้งสิ้น 37 ปี 4 เดือน จำเลยยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องด้วย

ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวน ประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุยิงใส่ผู้ชุมนุม และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบชายแต่งกายด้วยชุดดำสวมหมวกไหมพรม จากนั้นนำภาพมาเปรียบเทียบกับจำเลย หลักฐานดังกล่าวจึงไม่อาจยืนยันได้ว่าภาพจากกล้องวงจรปิด และตัวจำเลยนั้น เป็นบุคคลเดียวกัน ซึ่งมีเพียงภาพจากสื่อมวลชน โดยไม่มีพยานบุคคลมาเบิกความยืนยัน และคำให้การของจำเลยที่ให้การรับสารภาพ แต่ยังมีข้อพิรุธ เคลือบแคลงน่าสงสัย จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์จำเลยฟังขึ้น  พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง แต่ให้ขังจำเลยไว้ระหว่างฎีกา