นายกเทศมนตรี นครยะลา เผยสภาฯอนุมัติงบประมาณ 40 ล้านบาทตั้งแต่ต้นปี จองซิโนฟาร์มแล้ว 25,000 โดส พร้อมซื้อเพิ่มได้ทันทีหากไม่พอ ชู"ยะลาโมเดล" บูรณาการสาธารณสุขจังหวัด-โรงพยาบาลศูนย์-โรงพยาบาลชุมชน คาดฉีดเข็มแรกได้ภายในมิ.ย.2564
นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงการจองวัคซีนตัวเลือก (ชิโนฟาร์ม) ว่า ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2564 เทศบาลฯได้มองปัญหาการระบาดเชื้อโควิด-19 ที่ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญมาก ซึ่งตอนนั้นก็มีข่าวเรื่องการจัดหาวัคซีนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในฐานะผู้บริหารจึงได้นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมสภาเทศบาล ขออนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมจำนวน 40 ล้านบาทเพื่อจัดซื้อวัคซีนไว้แล้ว
หลังจากนั้นก็เป็นช่วงของการเลือกตั้ง และรัฐบาลเองก็ยังไม่อนุญาตให้จัดซื้อวัคซีน แต่ในช่วงที่ตำรงตำแหน่งก็พยายามที่จะประสานกับหลายบริษัท แต่ก็ติดล็อคจากระเบียบต่าง ๆ ที่รัฐบาลยังไม่อนุญาตให้ท้องถิ่นจัดซื้อวัคซีนได้ ก็เลยชะลอไป จนกระทั่งทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้เสนอวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม
เทศบาลนครยะลาได้รับอนุมัติงบประมาณไว้แล้วตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 งบประมาณดังกล่าวเป็นเงินสะสมก็ยังคงอยู่ พอราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์อนุญาตก็สามารถจัดซื้อได้เลย ซึ่งเทศบาลฯก็ได้ทำหนังสือถึงราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นทางการ ในการยืนยันในการสั่งซื้อวัคซีน
พร้อมทั้งได้มีการพูดคุยกับทางพันธมิตร คือ โรงพยาบาลศูนย์ยะลา และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ยะลา ว่าเราจะจัดซื้อวัคซีน และทางเทศบาลฯก็ได้ทำหนังสือขอความเห็นขอแจ้งในที่ประชุมศบค.จ.ยะลาว่า ทางเทศบาลนครยะลาจะดำเนินการจัดซื้อวัคซีน เพื่อให้ที่ประชุมได้รับทราบและจะได้วางแนวทางเพื่อการดำเนินการต่อไป
"การจัดหาวัคซีนเป็นเรื่องเร่งด่วน ขณะเดียวกันรัฐบาลเองเข้าใจว่า ได้ตระหนักถึงปัญหาเรื่องของโควิด-19 และสิ่งที่เป็นเจตนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะมาช่วยรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาให้มันรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แล้วก็มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รัฐบาลก็เลยได้อนุญาตในราชกิจนุเบกษาที่ผ่านมา ที่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดซื้อวัคซีนได้โดยตรง"
นายกเทศมนตรีนครยะลา กล่าวอีกว่า โดยในส่วนของเทศบาลนครยะลาเอง เราเข้าใจว่าตั้งแต่เริ่มต้นว่า อย่างไรก็ตามกระบวนนี้มันจะต้องไปสิ้นสุดที่การออกวัคซีนพาสปอร์ต ซึ่งวัคซีนพาสปอร์ตนั้นจะต้องได้รับการยอมรับ เหมือนกับที่เราจะเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งตัววัคซีนและพาสปอร์ตที่ได้รับการยอมรับ ก็คือพาสปอร์ตที่ออกโดยกระทรวงการต่างประเทศ ที่ต้องประสานกับทางสาธารณสุข เราจึงเข้าไปบูรณาการกับสสจ.ยะลาตั้งแต่ต้นอย่างครบวงจร
ในแง่ของระบบการจอง จะใช้ระบบที่จัดทำโดยสสจ.ยะลา ร่วมกับโรงพยาบาลศูนย์ยะลา และโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง ตลอดจนเทศบาลต่าง ๆ ไม่เฉพาะเทศบาลนครยะลาที่ได้สั่งจองวัคซีนไป เทศบาลตำบลต่าง ๆ ก็สนใจจะสั่งจอง ดังนั้นแบบฟอร์มต่างๆในการจองก็ควรจะเป็นรูปแบบเดียวกัน เพื่อที่จะได้วางแผนและบริหารข้อมูลและบูรณาการกันได้ ในรูปแบบของยะลาโมเดล
โดยในส่วนที่เป็นการลงทะเบียนผ่านคิวอาร์ของจังหวัดก็ดี ผ่านระบบหมอพร้อมก็ดี ในส่วนที่ยังไม่ได้ฉีด ที่กลุ่มเสี่ยง เราก็มาช่วยกันวิเคราะห์และบริหารวัคซีนกันว่า วัคซีนพื้นฐานของรัฐบาลกลางได้มาเมื่อไหร่ ก็เอาส่วนที่เทศบาลฯซื้อมาเติมเข้าไปในส่วนที่ยังเป็นช่องวาง เป็นการเติมเต็มให้ครบสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
“เราไม่ได้แยกทำต่างหาก เพราะฉะนั้นระบบของการบริหารวัคซีนในจังหวัดยะลา ก็จะเป็นเนื้อเดียวกันหมด จะไม่เกิดความซ้ำซ้อน หรือเกิดความเหลื่อมล้ำที่ทางรัฐบาลกังวล นี่คือแนวทางของยะลา”
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการจองวัคซีนนั้น ทน.ยะลา ได้มีหนังสือแจ้งราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ไปแล้วตั้งแต่ก่อนจัดการแถลงข่าว และส่งไปอีกฉบับยืนยันยอดจองที่ 25,000 โดส ใช้บริการฉีดคนละ 2 โดส จะบริการชาวยะลาได้ 12,500 คน
ในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ราชวิยาลัยจุฬาภรณ์จะเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์ ทางเทศบาลนครยะลาก็จะเข้าไปลงทะเบียนออนไลน์อีกครั้งหนึ่ง เข้าใจว่าทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ต้องการข้อมูลไว้บริหารการจัดสรรวัคซีน เพื่อสามารถโอนจัดส่งให้ทางสาธารณสุขได้เลย เนื่องจากต้องฉีด 2 โดส เมื่อเทศบาลนครยะลาจอง 25,000 โดส อาจจัดสรรให้ในรอบแรกเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 12,500 โดส เชื่อว่าจะเริ่มฉีดได้ภายในมิ.ย. 2564 นี้ จากนั้นรอไว้หนึ่งเดือนจัดส่งให้อีก 12,500 โดสเป็นเข็มที่ 2
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของการฉีดวัคซีนตัวเลือกนั้น จะมองในกลุ่มเสี่ยงก่อน เช่น คนที่จะต้องสัมผัสคนจำนวนมาก เช่น แม่ค้าในตลาด กลุ่มครูที่โรงเรียนกำลังจะเปิดเรียนในส่วนที่ยังขาดอยู่ กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่จะต้องสัมผัสคนจำนวนมาก
"อย่างไรก็ตามผมเองไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา คงต้องคุยกันในหมู่นักระบาดวิทยาและทางการแพทย์ ว่ากลุ่มไหนจะเหมาะสมที่ต้องเร่งฉีดเพิ่มเติมก่อน"
ส่วนจำนวนประชากรในเขตทน.ยะลานั้น นายกเทศมนตรีนครยะลา ระบุ มีประมาณ 70,000 คน เป้าหมายการฉีดเพื่อให้การเกิดภูมิคุ้นกันหมู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือต้องฉีดอย่างน้อย 49,000 คน โดยในจำนวนนี้ก็ครอบคลุมถึงกลุ่มเด็ก ตั้งแต่อายุ 1-18 ปี ที่ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนตัวไหนที่มารองรับคนกลุ่มนี้ ที่มีอยู่ประมาณ 10,000 คน ก็เหลือประมาณ 30,000 กว่าคน มีทื่ฉีดไปบ้างแล้วบางส่วน และวัคซีนที่รัฐบาลจัดสรรมา ส่วนของเทศบาลจึงวางไว้ที่ 25,000 โดส สำหรับคน 12,500 คน
อย่างไรก็ตามถ้ายังไม่เพียงพอ ทางทน.ยะลา พร้อมสั่งล็อต 2 มาเพิ่มได้อีก เพราะล็อตแรก 25,000 โดส จะเงินประมาณ 23 ล้านบาท แต่ได้ขออนุมัติสภาฯไว้แล้วจำนวน 40 ล้านบาท ยังเหลือวงเงินอีก 17 ล้านบาท นายกเทศมนตรีนครยะลาย้ำความพร้อม ก่อนกล่าวทิ้งท้ายว่า
“ความเป็นท้องถิ่นของเรา ผมคิดว่าเราก็ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนของเราด้วย ซึ่งผมคิดว่ามันไม่มีอะไรดีเท่ากับวันที่ประชาชนวิกฤติ แล้วพวกเราท้องถิ่นได้แสดงถึงความรับผิดชอบต่อประชาชนภายใต้การดูแลของเราด้วย”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง