ภูเก็ตดาหน้าฉีดวัคซีนสู่เป้าหมาย4.66แสนคน

02 มิ.ย. 2564 | 10:35 น.

 ภูเก็ตร่นนัดแรงงานต่างด้าวขึ้นมาฉีดวัคซีนทันที 3-5 มิ.ย.นี้ สกัดการระบาดย่านศูนย์กลางเมือง หวั่นกระทบแผนภูเก็ตแซนด์บอกซ์ เร่งเดินหน้าสู่เป้าหมาย 466,000 คน ภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้

ภูเก็ต ร่นนัด แรงงานต่างด้าว ขึ้นมาฉีดวัคซีนทันที 3-5 มิ.ย.นี้ สกัดการระบาดย่านศูนย์กลางเมือง ที่อาจขยายตัวเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ หวั่นกระทบแผนภูเก็ตแซนด์บอกซ์เปิดเกาะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินหน้าสู่เป้าหมาย 466,000 คน ภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ 
    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมติดตามการขับเคลื่อนแผน Phuket Tourism Sandbox เพื่อเปิดเกาะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้ว ในวันที่ 1 ก.ค.2564 นี้ โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน โดยเงื่อนไขสำคัญคือ ประชากรในพื้นที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 70 % นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ชี้แจงผู้เข้าร่วมประชุมถึงความคืบหน้าการดำเนินการ โดยเน้นย้ำว่า ข้อเท็จจริงที่ทุกคนต้องเข้าใจ คือ  วัคซีนที่เพียงพอสำหรับฉีดให้ 70% ของประชากรทุกกลุ่มในภูเก็ต คือคำตอบเรื่องภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd immunity) ที่จะปกป้องทุกผู้คน ที่อยู่อาศัยทำมาหากินในจังหวัดภูเก็ต ให้รอดพ้นจากโรคโควิด-19
    

ทั้งนี้ รัฐบาล และ ศบค. เห็นชอบแผน Phuket Tourism Sandbox เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2564 โดยสาระสำคัญของแผนคือ 
    1. การเปิดเกาะภูเก็ตรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทยมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 จนกระทั่งวันนี้ ให้กลับมาเยือนเกาะภูเก็ตใหม่ ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัด
    2. นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่จะเข้ามาเยือนนี้ ไม่ต้องกักตัวตามมาตรการที่มีใช้อยู่ หากปฏิบัติตามเงื่อนไขของจังหวัดภูเก็ต อาทิ ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ ตามมาตรฐานของWHO และต้องแสดงผลการตรวจโควิด-19เป็นลบ อย่างน้อย 72 ชม.ก่อนเดินทางถึงภูเก็ต
    3. เพื่อนำผลการทดลองเปิดเกาะภูเก็ตมาแก้ไข ปรับปรุง เพื่อเป็นแนวทางพัฒนาให้เหมาะสมกับการเปิดเมือง และจังหวัดท่องเที่ยวอื่น ๆ ในประเทศในระยะต่อไป อาทิ เกาะสมุย พังงา กระบี่ พัทยา เชียงใหม่ เป็นต้น
    

เว็บไซต์ของททท.นับถอยหลังรายวันสู่ 1 ก.ค. วันเปิดเกาะภูเก็ตรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยว

นายปิยพงศ์กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญอันดับแรกของแผนก็คือ ในสถานการณ์ที่ทั่วโลกยังมีการระบาดของเชื้อโควิด-19 มากน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละที่ แต่ละเมือง แต่ละประเทศ ประชาชนในภูเก็ตจะต้องปลอดภัย และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ จากนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทั้งนักท่องเที่ยวไทย น้อยที่สุด รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติเหล่านี้จะต้องไม่เป็นต้นเหตุ ของการนำเชื้อโควิดทุกๆสายพันธุ์จากภายนอกเข้ามาแพร่ให้ผู้คนในประเทศไทยอีกด้วย
    

ดังนั้น ก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ จะต้องมีการฉีดวัคซีนให้ผู้คน ไม่ว่าจะเป็นคนท้องถิ่นภูเก็ต หรือ กลุ่มประชากรแฝง อันประกอบด้วยผู้คนจากจังหวัดต่าง ๆ ประเทศต่าง ๆ ที่มาอาศัยหรือทำงานในเกาะภูเก็ต ทั้งคนไทย คนต่างชาติ แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ เมียนมา ลาว และ กัมพูชา ไม่สามารถยกเว้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ โดยต้องฉีดให้ได้อย่างน้อย 70 % ของจำนวนผู้คนที่กล่าวมา ซึ่งหากทำได้ตามเป้าหมาย การเปิดเกาะภูเก็ตรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่เกิดความเสี่ยงต่อการระบาด และการติดเชื้อของผู้คนในเกาะภูเก็ต ก็จะเดินหน้าได้ด้วยความมั่นใจ
    

เป้าหมายจำนวนคนในภูเก็ตที่จะต้องได้รับวัคซีนรวมทุกกลุ่ม คือ ประชากรอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 466,000 คน หรือคิดเป็นวัคซีน Sinovac หรือ Astra Zeneca คนละ 2 เข็ม รวม 930,000 เข็ม หากแยกตามกลุ่มและลำดับความสำคัญในการฉีดวัคซีนก่อนหลัง ก็จะเป็นคนภูเก็ตท้องถิ่นประมาณ 310,000 คน ผู้คนจากภายนอกที่มาทำงานในเกาะภูเก็ตประมาณ 100,000 คน และแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ อีก 56,000 คน ตามลำดับ
    

เพื่อให้แผน Phuket Tourism Sandbox เดินหน้า รัฐบาลจึงทยอยจัดสรรวัคซีนให้กับภูเก็ตตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นมา โดยวัคซีนล็อตแรกฉีดให้กับคนท้องถิ่นภูเก็ตจำนวน 100,000 คน x 2 เข็ม คือ Sinovac ซึ่งในระหว่างนั้นไม่อนุญาตให้ฉีดสำหรับคนที่อายุเกิน 60 ปี ทำให้คนสูงอายุที่เป็นคนท้องถิ่นภูเก็ตต้องรอวัคซีน Astra Zeneca ที่จะจัดสรรมาภายหลังในช่วงต้นเดือนมิถุนายน  
    

จนกระทั่งวัคซีน Sinovac ล็อตที่สอง จำนวน 200,000  คน x 1 เข็ม ก็ได้ส่งมาถึงภูเก็ตในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ก็ได้ระดมฉีดให้กับทั้งคนท้องถิ่นภูเก็ต และ ผู้คนจากภายนอกที่มาทำงานในเกาะภูเก็ต แต่ก็มีเหตุแทรกซ้อนเล็กน้อย โดยที่มีคนจากภายนอก ที่ทั้งไม่ได้อาศัยหรือทำงานในภูเก็ตเลย อาศัยช่องโหว่ในการลงทะเบียนจองคิวรับวัคซีนโดยให้ข้อมูลเท็จเป็นจำนวนนับหมื่นคน ทำให้จังหวัดต้องระงับการจองคิว และให้ผู้คนที่อาศัยหรือทำงานจริง ๆ ในภูเก็ตมาพิสูจน์ตนเองเพื่อจองคิวฉีดวัคซีนใหม่  รวมทั้งรณรงค์ให้คนภูเก็ตท้องถิ่น ที่ยังไม่ตัดสินใจลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีน ได้มาแสดงตัวเพื่อรับวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนได้ทันที ผลการฉีดวัคซีนล็อตนี้อยู่ที่ประมาณ 170,000 คน
    

รองผู้ว่าฯภูเก็ต ชี้แจงต่อว่า จนถึงวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ก็จะยังเหลือกลุ่มคน 170,000 คน ที่เพิ่งได้รับวัคซีน Sinovac เข็มแรกไปแล้ว รอฉีดวัคซีนเข็มที่สองกลางเดือนมิถุนายน กลุ่มคนสูงอายุ และ กลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว 7 โรค ที่รอฉีดวัคซีน Astra Zeneca ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน และสุดท้ายคือ กลุ่มแรงงานต่างชาติและแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติอีกกว่า 60,000 คน
    

แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์พบคลัสเตอร์การระบาด ของแรงงานเมียนมาเกือบสิบรายที่ตลาดดาวน์ทาวน์ ในเขตเทศบาลเมือง เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ทำให้จังหวัดต้องตัดสินใจเลื่อนการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ และแรงงานต่างชาติในคราวเดียวกัน ซึ่งแต่เดิมจะเป็นลำดับสุดท้าย ขึ้นมาฉีดวัคซีน Sinovac ระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายนทันที เพื่อให้กลุ่มแรงงานเหล่านี้มีภูมิคุ้มกันโดยเร็ว ลดโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ในอนาคต เหมือนกับที่เกิดขึ้นในจังหวัดสมุทรสาคร กรุงเทพฯ นนทบุรี เพชรบุรี เป็นต้น ตามที่เราทราบกันดี แม้ว่าจะมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า แรงงานต่างด้าวต่างชาติเหล่านี้จะได้รับวัคซีนก่อนกลุ่มคนภูเก็ตท้องถิ่นอาวุโสหรือกลุ่มมีโรคประจำตัวก็ตาม เหตุผลความจำเป็นในการป้องกันความเสี่ยงก็เป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ส่วนความคืบหน้าของแผน Phuket Tourism Sandbox  หลังจากเรื่องวัคซีนได้ดำเนินไปจนใกล้จุดหมาย 466,000 คน ในขั้นต่อไปก็คือ การเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาด การประชาสัมพันธ์ ให้ต่างประเทศรับทราบมาตรการต่าง ๆ ของจังหวัดและของประเทศ ความพร้อมในเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นใจและทำการจอง ไม่ว่าโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร รถโดยสาร และเรือนำเที่ยว สายการบิน สิ่งอำนวยความสะดวก มาตรการต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัย ของทั้งผู้คนในเกาะและนักท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดภูเก็ตจะต้องพิสูจน์ให้ทุกฝ่ายได้เห็น 
    

อนาคตของประเทศไทยในเรื่องการท่องเที่ยวและรายได้ที่จะเข้ามาขึ้นอยู่กับ ”ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ : ห้องทดลองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย”