เส้นทาง"กรุ๊ปลีส"ผ่องถ่ายเงินผ่านบริษัทในกัมพูชาไปสวิตเซอร์เเลนด์

09 พ.ค. 2564 | 04:01 น.

ผลการตรวจสอบ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด มหาชน พบผู้บริหารผ่องถ่ายเงินผ่านบริษัทในกัมพูชาไปสวิตเซอร์เเลนด์อีกจำนวนมาก

วันที่ 9 พ.ค.64  จากกรณีที่ฐานเศรษฐกิจได้เสนอข่าวการเปิดเผยผลการตรวจสอบกรณีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ก.ล.ต.ได้รับรายงานการตรวจสอบจาก นายสกล หาญสุทธิวารินทร์ อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด มหาชน ถึงเลขาธิการ ก.ล.ต. เรื่องพฤติการณ์อันควรสงสัยของกรรมการ หรือบุคคลที่รับผิดชอบในการดำเนินงานของ บริษัทกรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ "GL" เนื่องจากพบพฤติกรรมที่น่าสงสัยในการทำธุรกรรมไปเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ล่าสุดแหล่งข่าวจาก บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด มหาชน เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจ ว่า การเปิดเผยผลการตรวจสอบนอกเหนือจากการที่ จีแอล ไฟแนนซ์ ประเทศกัมพูชา (GLF) บริษัทย่อยของ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด มหาชน (GL) ในกัมพูชาผ่องถ่ายเงินโดยการโอนเงินล่วงหน้าให้บริษัทAPFT เพื่อจัดหามอเตอร์ไซด์แต่ยังโอนเงินล่วงหน้าเกินมูลค่ามอเตอร์ไซด์ที่ได้รับมาก รวมทั้งกรณีโอนเงินให้APFT 7.2 ล้านเหรียญสหรัฐโดยไม่ปรากฎว่าเป็นการทำธุรกรรมอะไรนั้น ยังมีการผ่องถ่ายเงินของ GL อีกรูปแบบหนึ่งโดยระบุว่า

บริษัท กรุ๊ปลีส โฮลดิ้ง จำกัด (GLH) บริษัทย่อยของบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) มีเงินฝากในธนาคารVontobel ในสวิตเซอร์แลนด์ ณ ต้นปี2560 รวม 73 ล้านเหรียญสหรัฐ ผู้มีอำนาจลงนามในการทำธุรกรรมคือ นายมิตซีจิ โคโนชิตะ กรรมการบริหารของ GLH ซึ่งถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษต่อดีเอสไอ ว่าทุจริต 

เมื่อวันที่6ตุลาคม2563 ศาลอุทธรณ์สิงคโปร์พิพากษากลับคำพิพากษศาลชั้นต้น ให้ GLH และจำเลยร่วมอีก 6คน รวมทั้งนายมิตซีจิ แพ้คดีต้องร่วมกันหรือแทนกันชำระค่าเสียหายให้ JTrust โจทก์ เป็นเงิน 70 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการบริษัทที่มีการพิจารณาการชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลสิงคโปร์ดังกล่าว 

คณะกรรมการตรวจสอบได้เสนอให้นำเงินฝากของ GLH ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีเพียงพอไปชำระหนี้ตามคำพิพากษา มิให้ใช้ทรัพย์สินของ GL ไปชำระหนี้ แต่กรรมการที่เป็นฝ่ายบริหารและซีอีโออ้างว่าไม่สามารถเบิกเงินดังกล่าวได้เพราะถูกอายัดแต่ก็ไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้ว่าเหตุที่เบิกเงินไม่ได้เพราะเหตุใด

ต่อมาปรากฎว่าฝ่ายบริหารของ GL ได้นำเงินสดของ GLโอนไปชำระหนี้ตามคำพิพากษา เมื่อวันที่8มกราคม2564 โอนไป37ล้านเหรียญสหรัฐ วันที่ 1 เมษายน 2564 โอนไป17 ล้านเหรียญสหรัฐ วันที่28เมษายน2564 โอนไป8.3ล้านเหรียญสหรัฐ

ล่าสุดมี Whistleblower ใน GL ค้นหาหลักฐานที่เกี่ยวกับการนำเงินของGLHเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้เงิน ซึ่งปรากฎหลักฐานเอกสารจากคดีที่ JTrust ฟ้อง GL ต่อศาลแพ่ง สรุปได้ว่า  นายมิตซีจิ โคโนชิตะ ได้นำเงินฝากของ GLH 73 ล้านเหรียญสหรัฐในธนาคารVontobel ไปค้ำประกันเงินกู้ที่ AFP Trading Co. Ltd (APFT) ของนายมิตซีจิ ถือหุ้นร้อยเปอร์เซ็นต์ กู้จากธนาคารVontobelในกิจการส่วนตัวของ APFT ตั้งแต่ปี2560 แต่ไม่ปรากฏตัวเลขเงินกู้ว่าเป็นจำนวนเท่าใด 

นอกจากกรณีนำเงินฝากของGLH ดังกล่าวไปค้ำประกันเงินกู้ธุรกิจบริษัทส่วนตัวแล้ว ปัจจุบันนายมิตซีจิ ถูกอัยการประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงินจากกรณีที่GLHนำเงินปล่อยกู้ให้แก่บุคคลและนิติบุคคลที่มีความเกี่ยวโยงกันรวมทั้ง APFT ก็มีชื่อเป็นผู้กู้ด้วยซึ่งทางดลต.เห็นว่าเป็นนิติกรรมอำพราง จึงสั่งให้GLแก้ไขงบการเงินให้ถูกต้องตามความจริง

ผลจากการที่นายมิตซีจิ นำเงินฝากของGLH ไปค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าว ข้อเท็จจริงตามเอกสารGLHยังมีชื่อเป็นเจ้าของเงินนี้และเงินยังคงอยู่แต่ไม่สามารถเบิกมาใช้ได้โอกาสที่GLHจะสูญเงิน74ล้านเหรียญมีความเป็นไปได้สูงคือ ถ้านายมิตซีจิหรือ APFT ไม่สามารถชำระเงินกู้ให้ธนาคารVontobel ก็จะถูกบังคับให้ใช้หนี้จากเงินที่ใช้ค้ำประกัน หรือหากผลคดีฟอกเงินหากศาลตัดสินว่านายมิทซีจิฟอกเงิน ก็อาจมีผลกระทบถึงเงินฝากของGLHดังกล่าว ที่อาจถูกทางการสวิสฯ ยึดก็ได้

การที่นายมิตซีจิถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงิน จึงได้แต่งตั้งทนายสู้คดี มีใบเรียกเก็บเงินค่าทนายไปยัง APFT ซึ่งความจริงก็คือเงินที่GLF ผ่องถ่ายไปให้APFTในรูปแบบและวิธีการต่างฯนั่นเอง

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่าเมื่อได้พิจารณาแล้วพบว่าการนำเงินฝากของGLHเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าวนอกจากนายมิตซีจิ โคโนชิตะ แล้วนายทัตซึยะ โคโนชิตะ นายมูเนโอ๊ะ ทาชิโร ซึ่งเป็นกรรมการบริหารของ GLH  จะปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องคงรับฟังยาก 
แต่นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ซึ่งเป็นCEO และกรรมการบริหารรวมทั้งนายมานูเอะ ทาชิโร ที่เป็นกรรมการของGLด้วยจนถึงปัจจุบันต่างก็ปกปิดข้อมูลไม่แจ้งความเป็นจริงให้ผู้สอบบัญชีทราบ จึงไม่มีการบันทึกภาระติดพันเป็นหลักประกันของเงินฝากก้อนนี้ในงบการเงินและรายงานประจำปีของGLที่เปิดเผยต่อสาธารณชนเพื่อผู้ลงทุนทราบแต่อย่างใด นอกจากนี้ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อถูกกรรมการอิสระซักถาม ทั้งนายทัตซึยะ และนายทาชิโร ก็มิได้เปิดเผยความจริงต่อกรรมการ ตอบแต่เพียงว่ากำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อชี้แจงต่อคณะกรรมการต่อไป

การที่ฝ่ายบริหารของGLปกปิดข้อมูลการโอนเงินของGLFที่กัมพูชาให้APFTและเงินฝากของGLHที่ธนาคารVontobel จนผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นในรายงานงบการเงิน จนตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ให้มีการซื้อขายหุ้นของGLในตลาดฯ ราคาหุ้นของGL เหลือเพียง.65 บาท เกิดความเสียหายต่อผู้ลงทุนรายย่อยจำนวนมาก และโอกาสที่GLH จะสูญเงินฝากในธนาคารVontobel 73 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะถูกบังคับหลักประกันใช้หนี้  หรือถูกทางการประเทศสวิตเซอร์แลนด์ยึดจากคดีฟอกเงิน รวมทั้งการที่ฝ่ายบริหารนำเงินสดของGLไปชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลสิงคโปร์ ซึ่งจะทำให้ขาดเงินสดในการดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ จะกระทบเสียหายต่อผู้ถือหุ้นและพนักงานเกือบพันคนที่อาจต้องตกงาน หากGLอยู่ในภาวะล้มละลาย เช่นนี้ผู้ใดจักต้องเป็นผู้รับผิดชอบ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยื่น ก.ล.ต.สอบ​ เส้นทางเงินปริศนากรุ๊ปลีส

เปิดผลสอบ "กรุ๊ปลีส" พบเส้นทางการเงินปริศนาเพียบ

เปิดพฤติกรรมผู้บริหาร "กรุ๊ปลีส" ผ่องถ่ายเงินผ่านบริษัทในกัมพูชา