ปิด"รพ.สนามแม่โจ้" ย้ายที่เหลือไปHospitech

07 พ.ค. 2564 | 09:12 น.

ม.แม่โจ้ ปิดรพ.สนาม “ขอบคุณทุกดวงใจ ร่วมสู้ภัยโควิด-19” ดูแลไปแล้ว 480 ราย หายแล้ว 400 กว่าราย  เตรียมย้ายผู้สัมผัสเชื้อที่เหลือ 55 คน สู่ MJU Well-being Hospitech ต่อไป 

ม.แม่โจ้ ปิดรพ.สนาม “ขอบคุณทุกดวงใจ ร่วมสู้ภัยโควิด-19” ดูแลไปแล้ว 480 ราย หายแล้ว 400 กว่าราย  เตรียมย้ายผู้สัมผัสเชื้อที่เหลือ 55 คน สู่ MJU Well-being Hospitech ต่อไป 

รัฐมนตรีอว.ร่วมประชุมทางไกลปิดรพ.สนามแม่โจ้ ย้ายผู้ติดเชื้อที่เหลือ 55 รายไปสมทบที่Hospitech

วันที่ 7  พฤษภาคม  2564 เมื่อเวลา 10.00 น.  ศ.พิเศษ ดร.เอนก  เหล่าธรรมทัศน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา  วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และ ศ. ดร.นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงฯ ร่วมแถลงข่าวออนไลน์ การปิดโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยแม่โจ้ “ขอบคุณทุกดวงใจ ร่วมสู้ภัยโควิด 19” ร่วมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้  นายแพทย์วรวุฒิ โฆวัชรกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสันทราย และ นายศิวะ  ธมิกานนท์  นายอำเภอสันทราย เป็นผู้ร่วมแถลงข่าว ณ  ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ (โซนบี) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 

 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง  จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการตรวจพบจำนวนผู้สัมผัสเชื้อเพิ่มขึ้นในเกณฑ์ค่อนข้างสูง ทำให้โรงพยาบาลหลัก และโรงพยาบาลสนามไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้สัมผัสเชื้อที่จะต้องเข้ารับการรักษา การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในมหาวิทยาลัยแม่โจ้  ตามประกาศศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอสันทราย (ศปก.อ.) เรื่อง การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามสำรองเพื่อรองรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ลงวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2564 จึงเป็นการสนับสนุนการแก้ไขวิกฤติโรคระบาด  และสนองนโยบายกระทรวง อว. ที่ให้มหาวิทยาลัยในส่วนภูมิภาคสนับสนุนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม โดยทางโรงพยาบาลสันทราย อำเภอสันทราย และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จะดูแลมาตรฐานความปลอดภัย กำกับมาตรการทางสาธารณสุข และการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด 


ทั้งนี้ การแถลงข่าวในครั้งนี้  ศ.พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.กระทรวง อว. ได้ให้นโยบายการดำเนินงานรับมือและแก้ไขสถานการณ์โควิด – 19 ในภาพรวมของกระทรวงฯ อว. ให้สอดคล้องกับแนวทางของรัฐในการแก้ไขปัญหาตามสถานการณ์อย่างเร่งด่วน ซึ่งทาง อว.ได้ทำงานร่วมกันกับ กระทรวง สธ. และ กระทรวง มท. พร้อมทั้ง ได้ขอบคุณทีมแพทย์ เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวของโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยแม่โจ้  ส่วน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. ได้แถลงถึงความคืบหน้าการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ในภาคการศึกษา โดยมหาวิทยาลัยทั่วประเทศทั้งในสังกัด และในกำกับ จำนวน 156 แห่ง  ให้จัดการเรียนการสอนเป็นระบบออนไลน์ตามข้อกำหนด และการจัดการเรียนการสอนระบบผสมผสานเพื่อรองรับทั้งภาคอุดมศึกษา ภาควิทยาศาสตร์ ภาคการวิจัยและนวัตกรรม ทั้งใช้กลไกขับเคลื่อนในการดูแลความปลอดภัยของประชาชน
  ปิด"รพ.สนามแม่โจ้" ย้ายที่เหลือไปHospitech

ปิด"รพ.สนามแม่โจ้" ย้ายที่เหลือไปHospitech

ด้านนายแพทย์วรวุฒิ  โฆวัชรกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสันทราย ได้สรุปผลการดำเนินงานโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยแม่โจ้ นับแต่เริ่มรับผู้สัมผัสเชื้อวันแรกเมื่อ 15 เมษายน 2564 จำนวน 86 คน จนมีผู้สัมผัสเชื้อสะสม รวม 480 ราย และได้ส่งไปรักษาตัวต่อใน รพ. 56 ราย  รับผู้มีอาการดีขึ้นจาก รพ. ต่างๆ 54 ราย ขณะนี้ได้จำหน่ายผู้ที่มีรักษาหายแล้ว 400 กว่าราย และคงเหลือในระบบเพียง 19 ราย และจะส่งต่อเข้าไปพักรักษาตัวที่ สถานพักฟื้นและดูแลสุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ : MJU Well-beling Hospitech , นายศิวะ ธมิกานนท์  นายอำเภอสันทราย แถลงสรุปการให้ความร่วมมือของปกครองท้องถิ่นในการดำเนินงานโดยมีบุคลากรหมุนเวียนสับเปลี่ยนรวมจำนวน 800 คน อำนวยความสะดวกแก่โรงพยาบาลสนามในด้านการรับสิ่งของบริจาคและอำนวยความสะดวกด้านอื่นๆ และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในส่วนของการดำเนินของสถานพักฟื้นและดูแลสุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ : MJU Well-beling Hospitech ต่อไป และ รศ.ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้แถลงถึงการบริหารจัดการสถานที่หลังจากปิดโรงพยาบาลสนาม และการดำเนินงานจัดตั้งสถานพักฟื้นและดูแลสุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ MJU Well-being Hospitech พร้อมทั้งการถอดบทเรียน แม่โจ้โมเดล 

รศ.ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “โรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งเปิดรองรับผู้สัมผัสเชื้อเฉพาะผู้หญิง ที่ผ่านการคัดกรองกระบวนการทางการแพทย์มาแล้ว มาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2564 ซึ่งบรรจุเตียงได้ 420 เตียง ทั้งนี้  โรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ยังได้รับการสนับสนุนการบริจาคเงิน และสิ่งของจำเป็นที่ต้องใช้ประจำวันจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ศิษย์เก่า ประชาชน อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทุกภาคส่วนได้ร่วมมือร่วมใจกันอย่างเต็มกำลัง ในการช่วยกันสู้ภัยโควิด-19 ให้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้  ซึ่งยอดการใช้เตียงสะสม ณ วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 เหลือเพียง 37 เตียง    และมาตรการรองรับในระยะยาว ทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ร่วมกับโรงพยาบาลสันทราย และอำเภอสันทราย ได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัย ส่วนขยาย  (สถานพักฟื้นและดูแลสุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ : MJU Well-beling Hospitech) เพื่อรองรับการรักษาผู้สัมผัสเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งจะเน้นผู้สัมผัสเชื้อในกลุ่มนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยแม่โจ้  กลุ่มผู้พิการตามความเห็นของแพทย์ กลุ่มผู้สัมผัสเชื้อทั้งครอบครัว หรือเด็กเล็กที่ต้องมีผู้ติดตามดูแล ตามความเห็นแพทย์ และกลุ่มผู้สัมผัสเชื้ออื่น ๆตามข้อวินิจฉัยของแพทย์ 
    โดยโรงพยาบาลสันทราย เป็นผู้วางระบบบริหารจัดการ และปฏิบัติงานด้านการแพทย์   ด้านอำเภอสันทรายจะสนับสนุน ประสานงาน อำนวยความสะดวก ด้านปกครองท้องถิ่น ชุมชนในอำเภอสันทราย หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวของ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้เป็นผู้จัดเตรียมสถานที่ โดยทำงานร่วมกันของวิทยาลัยนานาชาติ  และคณะพยาบาลศาสตร์ ปรับปรุงห้องพักของศูนย์การศึกษาและการฝึกอบรมนานาชาติ จำนวน 100 เตียง พร้อมทั้งสนับสนุนการบริหารจัดการ อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของแพทย์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  ซึ่งจะย้ายผู้สัมผัสเชื้อที่เหลือทั้ง 55 เตียง  เข้าพักฟื้นที่  MJU Well-beling Hospitech  ในวันศุกร์ที่ 7  พฤษภาคม 2564 นี้ครับ”

ปิด"รพ.สนามแม่โจ้" ย้ายที่เหลือไปHospitech

ปิด"รพ.สนามแม่โจ้" ย้ายที่เหลือไปHospitech

ศ.พิเศษ ดร.เอนก  เหล่าธรรมทัศน์  รัฐมนตรีว่าการ  กล่าวเพิ่มเติมว่า  “เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ผมและทีมงานได้ไปให้กำลังใจกับบุคลากรที่ทำหน้าที่ใน รพ.สนามของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนามในสังกัด กระทรวง อว.  ได้เห็นถึงความตั้งใจ เสียสละ ทุ่มเทของบุคลากรทางการแพทย์ ผู้บริหารของมหาวิทยาลัย อาสาสมัคร และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันแก้วิกฤตในครั้งนี้  ต้องขอขอบคุณทุกท่าน ทุกภาคส่วนเป็นอย่างมาก ทั้งทีมบุคลากรทางการแพทย์ ทีมปกครองท้องถิ่นที่นำโดยนายอำเภอสันทราย และโดยเฉพาะ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งไม่ได้มีคณะแพทยศาสตร์ แต่สามารถทำงานร่วมมือประสานกับแพทย์สาธารณสุข โรงพยาบาลสันทราย ที่ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี  พี่น้องชาวเชียงใหม่ควรจะดีใจ ที่มีมหาวิทยาลัยแม่โจ้อยู่ในพื้นที่ เพราะไม่เพียงทำหน้าที่แค่การสอนหรืองานวิจัย หากในยามคับขัน บ้านเมืองมีปัญหา ก็สามารถ ช่วยแก้ไขสถานการณ์ได้ เพราะตอนที่เชียงใหม่เกิดวิกฤตหนัก ในวันที่ต้องการ รพ.สนามเพิ่ม ซึ่งหาได้ไม่ง่าย ในยามนั้นเหมือนกองทัพกำลังจะแพ้  แต่มหาวิทยาลัยแม่โจ้เหมือนเป็นกองหนุนที่เหนือความความคาดหมายยินดีเปิด รพ.สนามได้ในเวลา 48 ชม. ช่วยแก้ไขสถานการณ์วิกฤตเชียงใหม่ให้ดีขึ้น ขอบคุณมากครับ ”

จากนั้น  ได้มีการมอบช่อดอกไม้ “ขอบคุณทุกดวงใจ ร่วมสู้ภัยโควิด-19” ให้แก่ตัวแทนแพทย์ พยาบาล สาธารณสุข กรมการปกครอง ปกครองท้องถิ่น และนายกสมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ เพื่อแสดงความขอบคุณแก่ผู้มีส่วนในการดำเนินงานของโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยแม่โจ้

ปิด"รพ.สนามแม่โจ้" ย้ายที่เหลือไปHospitech

ข่าวที่เกี่ยวข้อง