เชลล์ ชูกลยุทธ์ใหม่หลังโควิดคลี่คลาย

01 ก.ย. 2563 | 06:57 น.

เชลล์ ส่งแนวคิดใหม่ #EnergyAmbition หวังตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคและสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปหลังเกิดโควิด -19

นาย ปนันท์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า โรคระบาดโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบและเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนไปอย่างมีนัยสำคัญ โดยได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่หลากหลายทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย อาทิ ความกังวลด้านสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้น การทำงานจากบ้าน การปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางที่แตกต่างไปจากเดิม ซึ่งรถยนต์ส่วนบุคคลก็เป็นทางเลือกหลักของผู้คนจำนวนมากเมื่อต้องเดินทาง 


การเปลี่ยนแปลงนี้ยังรวมไปถึง การเติบโตอย่างรวดเร็วของสังคมไร้เงินสด และการปรับตัวทางดิจิทัล เศรษฐกิจในอนาคตแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง และความท้าทายของเชลล์ คือ การต้องปรับตัวเข้าสู่สภาวะใหม่ เพื่อรองรับความต้องการด้านพลังงานของลูกค้า โดยเชลล์มุ่งมั่นเดินหน้าตามเจตนารมย์ในการเป็น พันธมิตรที่ไว้วางใจได้ ด้วยแนวคิด #EnergyAmbition ‘พลังงานดี ชีวิตมีสุข’ พลังงานที่สนับสนุนการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนต่อไป”

 

สำหรับ#EnergyAmbition จะเป็นแผนการดำเนินงานหลักของเชลล์ในช่วงปี พ.ศ. 2563-2565 โดยเป็นแนวคิดใหม่สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจระยะฟื้นฟูหลังโควิด-19 ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจใน 5 ด้าน ดังนี้ 
 

A = Advanced Energy การใช้นวัตกรรมพลังงานที่มีประสิทธิภาพ เช่น น้ำมัน V-Power, เทคโนโลยี Gas-to-Liquid, ยางมะตอย Bitumen FreshAir และการเข้าถึงเทคโนโลยีพลังงานในหลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งส่วนธุรกิจและค้าปลีก


B = Brand Trust  การเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจ โดยทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล คู่ค้าทางธุรกิจ และสังคม เพื่อทำความเข้าใจและปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการด้านพลังงานของสังคม โดยเชลล์เป็นพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลและคู่ค้าในไทยมาอย่างยาวนาน 


เห็นได้จาก การดำเนินโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด โครงการวางท่อน้ำมันใหม่ไปในเส้นทางภาคเหนือและภาคอีสาน การยกระดับการเดินทางและคมนาคมเพื่อเมืองแห่งอนาคต นอกจากนี้ เชลล์ยังได้พัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีให้กับคนไทย เช่น โครงการพลังงานเพื่อชุมชน โครงการเชลล์เติมสุข และโครงการออกแบบเมืองแห่งอนาคต

 

C= Carbon Footprint การดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมเพื่อลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตลอดการดำเนินงานทั้งห่วงโซ่อุปทาน ควบคู่ไปกับการมองหาโอกาสในการส่งมอบพลังงานสะอาดรูปแบบต่างๆ และพลังงานทางเลือกใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึง การจัดสรรทรัพยากรที่จำกัดอย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพในสถานที่ทำงาน
 

D = Digitalisation การนำเสนอเทคโนโลยีดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซโซลูชันใหม่ๆ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและการเสริมสร้างสุขอนามัยที่ดี เช่น การพัฒนาบริการด้วยการใช้ดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการชำระเงินแบบไร้สัมผัส และการริเริ่มนวัตกรรมอีคอมเมิร์ซในห่วงโซ่การดำเนินธุรกิจ อาทิ บริการ Pay at Pump ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถชำระเงินแบบไร้สัมผัส ที่สถานีบริการเชลล์ และร้าน DeliCafe ทุกสาขา


 บริการ Home Delivery และบริการแบบ Online-to-Offline ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างเชลล์กับลาซาด้า ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถสั่งน้ำมันเครื่อง ผ่านลาซาด้า พร้อมนัดวันเวลา เลือกสถานีบริการน้ำมันเชลล์ที่จะทำการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเชลล์ได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งนี้ Digitalization ไม่เพียงแต่ยกระดับความปลอดภัยให้กับลูกค้า แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย สำหรับทั้งบริษัทและลูกค้าอีกด้วย

 

E = Empowering People การเสริมพลังคนทั้งภายในและภายนอกองค์กร ให้มีพลังที่ดีในการดำเนินชีวิต เพื่อรับมือกับผลกระทบจากโควิด-19 และชีวิตวิถีใหม่ New Normal ซึ่งรวมถึงการดำเนินโครงการพัฒนาทักษะด้านต่างๆ การส่งเสริมศักยภาพพนักงาน และการสนับสนุนจิตอาสา 


ทั้งนี้ได้มีการจัดการอบรมให้กับ Service Champions หรือพนักงานให้บริการที่ประจำอยู่ที่สถานีบริการน้ำมัน รวมไปถึงบุคลากรของร้านค้าที่เป็นพันธมิตรกับเชลล์ทั่วประเทศ นอกจากนี้ เชลล์ยังได้มีการปรับสภาพแวดล้อมและสถานที่ทำงาน โดยคำนึงถึงสุขภาพกายสุขภาพจิตของพนักงานเป็นสำคัญ

 

เชลล์ ชูกลยุทธ์ใหม่หลังโควิดคลี่คลาย