เจน 2 "เบนซ์ ตลิ่งชัน" ปรับภาพลักษณ์-ชูบริการ...ยึดท็อป 3 ดีลเลอร์ตราดาว
"เบนซ์ ตลิ่งชัน" ทุ่ม 2,000 ล้านบาท เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ “แอทต้า ออโต้เฮ้าส์” ย่านราชพฤกษ์ ชูจุดเด่นในการนำดิจิทัลเข้ามาเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า รองรับยุค 4.0 หวังรั้งตำแหน่ง ท็อป 3 ดีลเลอร์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยาว
นางสาวเบญจรัตน์ ตันตสิรินทร์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เบนซ์ตลิ่งชัน จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีโชว์รูมแห่งแรกตั้งอยู่ที่ตลิ่งชัน และเปิดให้บริการครบวงจร ทั้งขายรถใหม่, เอเอ็มจี, รถใช้แล้ว, บริการหลังการขายพร้อมทั้งศูนย์ซ่อมสีและตัวถังที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโชว์รูม สามารถรองรับรถของลูกค้าได้ 1,000 คันต่อเดือน และเพื่อรองรับกับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์แบบใหม่ บริษัทจึงมีแผนเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ แอทต้า ออโต้ เฮ้าส์ (Atta Autuhaus) ซึ่งตั้งอยู่ย่านราชพฤกษ์
“เรามีฐานลูกค้ามากกว่า 2 หมื่นรายนับตั้งแต่เปิดขายมาตั้งแต่ปี 2531 โดยพื้นที่ในเขตฝั่งธนบุรีจนถึงนนทบุรีหรือปริมณฑลใกล้ๆจะเป็นโซนที่เราได้ดูแล ซึ่งปัจจุบันลูกค้ามีจำนวนที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นบริษัทจึงมองหาพื้นที่แห่งใหม่ซึ่งอยู่ในโซนใกล้ๆ กันคือราชพฤกษ์ โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างและใช้เงินมากกว่า 1,000 ล้านบาท คาดว่าเมื่อแล้วเสร็จจะใช้งบทั้งสิ้นประมาณ 2,000 ล้านบาท”
นางสาวเบญจรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อโชว์รูมแห่งใหม่แล้วเสร็จและเปิดดำเนินการ จะทำให้บริษัทมียอดขายรถยนต์รวมกันใกล้เคียง 2,000 คัน ส่วนตัวเลขการขายปีที่ผ่านมาเฉพาะตลิ่งชันสาขาเดียว ทำได้ประมาณ 800-900 คัน ถือเป็นดีลเลอร์ 1 ใน 3 ที่ทำยอดขายได้สูงสุด ขณะที่สัดส่วนการขายรถนั้นแบ่งออกเป็นเซ็กเมนต์ลักชัวรี อย่าง ซี, อี, เอส คลาส 30%, กลุ่มเอสยูวี 30, คอมแพ็กต์คาร์ 20%, ดรีม คาร์ 10%, เอเอ็มจี 8% และรถตู้ 2%
“เราคาดว่ารายได้ของบริษัทจะอยู่ที่ 3,500 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในปีหน้า ขณะที่เซ็กเมนต์อย่าง เอเอ็มจี เติบโตขึ้นเรื่อยๆส่วนหนึ่งเป็นเพราะบริษัทแม่มีการซัพพอร์ตทั้งราคา การตลาดต่างๆ ทำให้ราคาจับต้องได้ อีกทั้งยังช่วยขยายฐานลูกค้าของเมอร์เซเดส- เบนซ์ให้กว้างมากขึ้นอีกด้วย”
ด้านนางสาวจิตติรัตน์ ตันตสิรินทร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท เบนซ์ตลิ่งชัน จำกัด กล่าวว่า โชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่มีแผน Soft Opening ปลายปีนี้ และไตรมาส 1 ปี 2563 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยจุดเด่นของสาขานี้จะนำเทคโนโลยี-ดิจิทัลออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ เข้ามามีบทบาท รวมไปถึงพนักงานที่ให้บริการจะเป็นกลุ่มนิวเจน หรือคนรุ่นใหม่ และการทำงานจะยึดหลัก Customer Centric
ส่วนลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของสาขาแห่งใหม่นี้จะเป็น คนรุ่นใหม่, อาชีพอิสระ อย่างพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์, เจ้าของกิจการ หรืออาจจะเป็นรถคันที่ 2 หรือ 3 ของบ้าน ซึ่งบุคคลเหล่านี้ต้องการบริการสะดวกสบาย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน
“สาขาใหม่จะแตกต่างจากโชว์รูมเบนซ์ตลิ่งชัน เพราะจะเป็นมากกว่าโชว์รูม เราจะมุ่งเน้นนวัตกรรมที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกบริการต่างๆได้ตรงตามความต้องการ และเรานำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพ อาทิ ออนไลน์ด้านต่างๆ เพื่อจะตอบโจทย์ของลูกค้าให้เกิดความเป็นไปได้ สะดวก รวดเร็ว ตรงใจและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้ได้มากที่สุด” นางสาวจิตติรัตน์ กล่าว
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,519 วันที่ 3 - 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562