เศรษฐกิจโลกฟื้น ดันลงทุนครึ่งปีหลังสดใส

06 มิ.ย. 2564 | 01:05 น.

หุ้นตราสารหนี้ กองทุน ยังให้ผลตอบแทนดี โบรกแนะลงทุนหุ้นรับประโยชน์เศรษฐกิจฟื้น ด้านสมาคมตราสารหนี้ไทย คาดปีนี้เอกชนออกหุ้นกู้ตามเป้าหมาย ส่วนบลจ.แนะเก็บกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศเข้าพอร์ต 80%

เหลือแค่ 1 เดือนก็จะพ้นช่วงครึ่งแรกปี 2564 การลงทุนยังคงผันผวนตามสถานการณ์และอาจดูดีขึ้นบ้างจากปัจจัยต่างประเทศที่เศรษฐกิจประเทศหลักเริ่มฟื้นตัว ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตาม ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ในประเทศที่ยังทรงตัวระดับสูง รวมถึงเสียชีวิตต่อเนื่อง แต่ยังมีความหวังจากการปูพรมฉีดวัคซีนและเพิ่มยี่ห้อวัคซีนทางเลือกมากขึ้น ทำให้ช่วงที่เหลือปีนี้ บรรยากาศจะคลี่คลายมากขึ้นและค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นได้ 

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การลงทุนในตลาดหุ้นไทย,ตลาดตราสารหนี้ไทยและกองทุนรวมมีแนวโน้มดีขึ้น โดยดัชนีหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีถึง 28 พฤษภาคม 2564 เพิ่มขึ้น 168.20 จุด หรือ 11.61% ด้านตลาดตราสารหนี้ไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล(บอนด์ยีลด์)เพิ่มขึ้น 0.58%, 5 ปีเพิ่มขึ้น 0.46% และ 1 ปีเพิ่มขึ้น 0.11% ขณะที่กองทุนรวมที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด ณ วันที่ 30 เมษายน 2564 คือ กองทุนรวม Commodities Energy ที่ 32.86%, Equity Small/Mid-Cap ที่ 20.09% และ Equity Fix Term ที่ 19.70% 

เศรษฐกิจโลกฟื้น ดันลงทุนครึ่งปีหลังสดใส

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)จำกัดเปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยไตรมาส 3 ปี2564 ยังได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน (บจ.)และสภาพคล่องที่ยังอยู่ในระดับสูง แต่ช่วงปลายไตรมาส 3-4 อาจเห็นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณลดการทำมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (คิวอี) ซึ่งจะทำให้กระแสเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐและประเทศที่พัฒนาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่เหลือของปีนี้ มองว่าหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นคือ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มปิโตรเคมี โดยยังคงซื้อเก็งกำไรได้ แต่ยังมีความเสี่ยงจากราคาที่สูงขึ้น ต้องรอจังหวะที่เหมาะสม ส่วนกลุ่มที่ปลอดภัยคือ กลุ่มสื่อสาร ที่แม้พื้นฐานไม่ค่อยดีนักแต่ภาพรวมยังดีจากการเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานในปัจจุบันที่ต้องใช้เทคโนโลยี นอกจากนี้ที่ผ่านมาเป็นกลุ่มที่ราคาปรับขึ้นน้อยที่สุด ส่งผลให้ราคาในปัจจุบันยังพอซื้อได้ และมองว่าจะเป็นกลุ่มที่สามารถนำเงินมาได้ 

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยกล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ยังอยู่ในภาวะปกติ แม้ช่วงเดือนมีนาคม บอนด์ยีลด์จะปรับขึ้นตามบอนด์ยีลด์สหรัฐที่กังวลเรื่องเงินเฟ้อ ส่วนกระแสเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน มีสถานะซื้อสุทธิ 35,000 ล้านบาท คาดว่าหลังเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมที่เริ่มมีการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น ส่งผลดีต่อผู้ออกหุ้นกู้ให้เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น และหากปีนี้สถานการณ์ดีขึ้น อาจมีการออกหุ้นกู้ของเอกชนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 7-7.5 แสนล้านบาท

นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า แนะนำนักลงทุนจัดพอร์ตการลงทุนในกองทุนหลากหลาย จะทำให้พอร์ตไม่แกว่งตามดัชนีหุ้น ซึ่งหากคาดหวังผลตอบแทน 100% ควรลงทุนในกองทุนรวมหุ้น 100% แต่ถ้าคาดหวังผลตอบแทนเพียง 4-5% ให้ลงทุนในกองทุนรวมหุ้น 50% ส่วนกองทุนรวมตราสารหนี้และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 50% นอกจากนี้ หากลงทุนในกองทุนรวมหุ้นเป็นหลัก ควรลงทุนในกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ 80% และกองทุนรวมหุ้นในไทย 20% 

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,685 วันที่ 6 - 9 มิถุนายน พ.ศ. 2564